กรอ.จ่อออกประกาศห้ามนำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์และพลาสติกสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอให้ “อุตตม” ชง ครม.อนุมัติห้ามนำเข้าเป็นการถาวรต่อไป จับตาขุมทรัพย์ถูกเปลี่ยนมือ อำนาจอนุมัตินำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์และซากพลาสติกหลุดจาก กรอ.ไปขึ้นกับคณะอนุกรรมการฯ ที่มี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติเป็นประธาน
นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)เปิดเผยว่า ภายในวันที่ 25 มิ.ย. กรอ.เตรียมเซ็นคำสั่งระงับการให้ใบอนุญาตนำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์ และเศษพลาสติกทั้งหมดเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคงเป็นประธาน จากนั้นจะเสนอให้นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาห้ามนำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์ และเศษพลาสติกทั้งหมดอย่างถาวรต่อไป
“แม้ว่าจะไม่ให้นำเข้าแต่ไทยก็ยังอยู่ในอนุสัญญาบาเซิลต่อไป เพราะไทยยังต้องส่งออกซากอิเล็กทรอนิกส์ ที่ไทยไม่มีเครื่องมือในการกำจัดไปกำจัดยังต่างประเทศ” นายมงคลกล่าว
อย่างไรก็ตาม ต่อไปหากผู้ประกอบการรายใดยังมีความจำเป็นที่จะต้องนำเข้าซากฯ เข้ามาเพื่อมาใช้ประโยชน์ต่อยอดทางธุรกิจ จะต้องเสนอมายังคณะอนุกรรมการบูรณาการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นระบบ ซึ่งเป็นชุดที่ พล.อ.ประวิตร แต่งตั้ง โดยมี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเท่านั้น ซึ่งจะพิจารณาเป็นกรณีกรณีไป
ส่วนซากอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังเหลือในประเทศ เช่น ปี 60 นำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์เข้ามา 53,000 ตัน ปี 61 นำเข้ามา 37,000 ตัน ซากพลาสติก ปี 60 นำเข้ามา 150,000 ตัน ปี 61 ตั้งแต่ ม.ค.-พ.ค. มีการนำเข้ามา 110,000 ตัน ก็จะมีการตรวจสอบเข้มข้นว่า มีการรีไซเคิล หรือกำจัดอย่างถูกต้องหรือไม่
“คาดว่าเร็วๆ นี้ รัฐบาลจะมีการออกกฎหมาย คือ ร่าง พ.ร.บ.การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และซากผลิตภัณฑ์อื่น พ.ศ. ... เสนอโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเข้ามาควบคุม บริหารจัดการ ซากอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะแม้ไม่มีการนำเข้าแต่ไทยเองมีปริมาณซากอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้าและอื่นๆ มากถึง 400,000 ตันต่อปี” นายมงคลกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่กรอ.และกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องออกประกาศห้ามนำเข้าซากอิเล็กทรอนิกส์และซากพลาสติกในกรณีข้างต้น ได้ทำให้ กรอ.และกระทรวงอุตสาหกรรมหมดอำนาจการในพิจารณานำเข้าที่เคยมีมาและอำนาจดังกล่าวถูกเปลี่ยนมือไปที่คณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างเป็นระบบ ที่มี รมว.ทรัพยากรเป็นประธาน เท่ากับว่าเป็นการถูกลดทอนอำนาจในการทำงานในเรื่องดังกล่าวในทันที
