“บิ๊กเต่า” เตรียมถกแก้ปัญหานำเข้าขยะพิษบ่ายนี้ เตรียมคลี่กฎหมายเอาผิดโรงงาน-ดูเอื้อสำแดงเท็จ เชื่อคนไทยหนุนใช้ ม.44 แก้
วันนี้ (21 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะทำงาน แก้ปัญหาการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะพิษ ว่าวันนี้เวลา 13.30 น.จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นดังกล่าวที่กระทรวงทรัพยากรฯ โดยหลักจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและระยะยาว ซึ่งปัญหาทุกคนทราบแล้วว่ามีขยะเข้ามา แต่ต้องย้อนไปดูสนธิสัญญาการนำเข้าถูกต้องหรือไม่ ถ้าสำแดงเท็จก็จะเป็นภัยต่อประชาชน และจะไม่ให้นำเข้า ตรงนี้จะหากฎหมายมาดำเนินการ หากกฎกระทรวงที่มีอยู่ไม่ลงตัว การใช้มาตรา 44 คนไทยคงจะสนับสนุน
พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ส่วนผู้ที่ทำถูกกฎหมายแล้วก็ให้ทำไป แต่ในส่วนที่ไม่ถูกกฎหมาย เป็นมลพิษต่อคนไทย เราคงไม่ยอมให้เกิดขึ้น เมื่อถามว่าคณะกรรมการที่ พล.อ.สุรศักดิ์เป็นประธานนี้จะตรวจสอบถึงคนที่รู้เห็นเป็นใจหรือเอื้อให้สำแดงเท็จด้วยหรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า รวมด้วย เมื่อถามอีกว่า ดูจะส่อเค้าการทุจริตเอื้อให้มีการสำแดงเท็จในการนำเข้าใช่หรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์ตอบว่า ยังไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ทุจริตหรือไม่ เพราะอย่างเรื่องการจับไม้ก็มีการส่งออกทางตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งทางกรมศุลกากรก็ไม่สามารถเอกซเรย์ทุกตู้ได้ หลักการค้าเป็นเพียงการสุ่มตรวจ
เมื่อถามว่า ล็อตล่าสุดพบมีขยะอิเล็กทรอนิกส์อีกกว่าแสนตัน จะเข้าไปชะลอหรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า จะพูดคุยกับตำรวจในการชะลอ โดยใช้อำนาจหน้าที่ที่มีทั้งหมด แต่ถ้าอะไรทำได้ในระดับกระทรวงคงจะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ตอนนี้ขอเอาสุขภาพคนไทยเป็นเป้าหมายที่หนึ่งก่อน
เมื่อถามว่า เรื่องเกิดมาระยะหนึ่งแล้ว ได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ที่อาจเกี่ยวข้องในการปล่อยปละละเลยหรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ตรงนี้เป็นช่องว่างทางกฎหมายหรือไม่ตนไม่แน่ใจ แต่จากที่ตนรณรงค์ลดพลาสติก ได้หยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยกัน ทราบว่าโรงงานที่ไปเปิดผิดกฎหมายและการดำเนินการก็ไม่ถูก อำนาจของกรมโรงงานอุตสาหกรรมอาจไม่ครอบคลุมตรงนั้น ตำรวจจึงเข้าไปจับกุม แต่จะใช้กฎหมายไหนลงโทษจะหารือโดยคลี่กฎหมายมาคุยกันในที่ประชุมวันนี้
พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งใดที่ไม่เป็นประโยชน์และเป็นภารประเทศจะไม่เอาเข้า แต่อย่างการกำจัดขยะที่มีสารปรอท ประเทศไทยส่งไปกำจัดที่สวิตเซอร์แลนด์ หรือขยะมือถือเราส่งไปกำจัดที่สิงคโปร์ซึ่งมีโรงงานรีไซเคิล ถือเป็นเรื่องปกติถ้าทุกคนทำถูกกฎหมาย เชื่อว่าทุกประเทศคงไม่สนับสนุนให้คนทำผิด แต่มีคนไม่ดีมาทำอยู่ในประเทศของเราจึงต้องสะสาง