หลังจากเปิดตัวกองทุน 500 TukTuks ไปเมื่อปี 2558 เพื่อลงทุนในสตาร์ทอัพไทยระดับ seed/pre-series A โดย 500 TukTuks ได้ร่วมลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพรวม 50 บริษัท ช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถระดมทุนในรอบถัดไปได้รวมเกือบ 7,000 ล้านบาท รวมทั้งช่วยสร้างการจ้างงานเกือบ 10,000 ตำแหน่ง
ล่าสุด 500 TukTuks ประกาศร่วมรับการลงทุนของกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของไทย ได้แก่ กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มธุรกิจ TCP บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท วัชรพล จำกัด ในเครือหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด ในกองทุน 500 TukTuks II พร้อมตั้งเป้าลงทุนใน 150 สตาร์ทอัพ ทั้ง Disruptive Digital Startups ในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้ง Global Deep Tech Startups ที่จะเข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างระบบนิเวศแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สมบูรณ์แบบทั้ง Disruptive Digital และ Deep Technology ควบคู่กับการสร้าง synergy กับบริษัทยักษ์ใหญ่ในไทย
พร้อมเปิดตัวพันธมิตรชั้นนำระดับโลกจากทั้ง Silicon Valley และเอเชีย เช่น Terra Accelerator บริษัท accelerator ชั้นนำด้าน Food/Bio/AgriTech, SOSV - กองทุน VC ระดับ top 5 ด้าน AI และ Blockchain, Chinaccelerator - กองทุน VC ชั้นนำที่ลงทุนใน tech startups ชั้นนำของจีน, MOX - Mobile Only Accelerator พร้อมดึงกูรูระดับโลกอย่าง Harper Reed อดีต CTO ของ Obama และ กูรูชั้นนำของไทย ด้าน AR/VR, Crypto/Blockchain, Food/BioTech, IoT ร่วมสร้างระบบนิเวศแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบในประเทศไทย และพร้อมเร่งผลักดันการเติบโตแบบก้าวกระโดดของระบบนิเวศสตาร์ทอัพ (startup ecosystem) ของไทย
“ทางกองทุน 500 TukTuks ดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่บริษัทชั้นนำในเมืองไทย อย่างกลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มธุรกิจ TCP บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท วัชรพล จำกัด ในเครือหนังสือ พิมพ์ไทยรัฐ และ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด ได้มาร่วมลงทุนในกองทุน 500 TukTuks เพื่อร่วมผลักดันวงการสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดด และร่วมสร้างระบบนิเวศแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ (Disruptive Digital and Deep Technology Ecosystem) ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านทางพลังผนึก (synergy) กับบริษัทชั้นนำของประเทศไทยเหล่านี้ นอกจากเครือข่ายของ 500 Startups ที่ลงทุนในสตาร์ทอัพไปแล้วเกือบ 2,000 บริษัททั่วโลก เรายังได้พันธมิตรระดับโลกทั้ง Terra Accelerator, SOSV, Chinaccelerator, MOX และพันธมิตรชั้นนำอีกมากมาย มาช่วยผลักดันวิสัยทัศน์ของเราในครั้งนี้” นายกระทิง พูนผล ผู้จัดการกองทุน 500 TukTuks (Krating Poonpol Man aging Parther of 500 TukTuk) กล่าว
นายดนภัทร พร้อมพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ แผนกการลงทุน กลุ่มเซ็นทรัล (Danapat Promphan Vice President-Investment, Center Deparment store Co;Ltd ) เปิดเผยว่า “กลุ่ม Central Group คือผู้นำด้าน Retail และ E-commerce และเป้าหมายของเราคือการ Transform เป็น Top Tech Company ภายใต้ยุทธศาสตร์ New Central, New E-conomy เพื่อเป็นผู้นำด้าน Digi-Lifestyle Platform การลงทุนใน 500 TukTuks นั้นตอบโจทย์เป็นอย่างดีในการช่วยเสริมสร้าง Digi-Lifestyle Innovation Platform ของ Central ผ่านทาง Tech Startups ทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Central Group”
สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP (Saravoot Yoovidhya CEO of TCP Phamaceutical Industries Co;Ltd) ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทย เป็นผู้ผลิต เป็นผู้จัดจำหน่าย และเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มกระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ สปอนเซอร์ แมนซั่ม เพียวริคุ และเมล็ดทานตะวันซันสแนค กล่าวเสริมว่า “เรามองเห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกที่นับวันจะถูก Disrupt รุนแรงและรวดเร็วมากขึ้น การเข้ามาของ IoT, AI, Robot หรือเทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Tech) ต่างๆ ล้วนมีศักยภาพในการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตและการดำเนินธุรกิจให้ต่างไปจากเดิมได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งกลุ่มธุรกิจ TCP เล็งเห็นว่าองค์กรก็ต้องมีการปรับตัวเช่นกัน
การร่วมลงทุนในกองทุน 500 TukTuks ในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมรับมือกับกระแส Disruption ผ่านการทำงานร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรของเราจะสามารถก้าวข้ามวิธีการทำงานแบบเดิม สู่นวัตกรรมใหม่ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีเข้ากับสังคม เพิ่มประสิทธิภาพ สร้างผลิตภัณฑ์ และบริการให้ดียิ่งขึ้นกับลูกค้าของเรา รวมทั้งยกระดับธุรกิจของเราไปสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบได้เร็วขึ้น”
นายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ที่ทำการลงทุนร่วมกับ 500 TukTuks นั้นเนื่องจากอยากสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่มีแนวความคิดใหม่ๆ ที่ยั่งยืน และพิสูจน์ได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคมและระบบเศรษฐกิจโดยรวม”
“ประเทศไทยมีศักยภาพอย่างมากในการเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น Food/Bio/AgriTech, TravelTech, Disruptive Digital Technology, Logistics, FinTech/ InsurTech, Retail/eCommerce, Health, Energy, PropTech เป็นต้น ทางกองทุน 500 TukTuks พร้อมทั้งพันธมิตรหวังว่าจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการเติบโตของวงการ Tech Startups ไทยให้เติบโตไปในระดับ Asia และระดับโลกได้ รวมทั้งช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านของหลายๆ อุตสาหกรรมเพื่อเป็นผู้นำสู่ยุค Disruption ผ่านทางการลงทุนและสร้างพลังผนึกกับ Disruptive Digital และ Deep Tech Startups เหล่านี้” นายกระทิง พูนผล กล่าว