ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - อสังหาฯ โคราชยังซึม แนวดิ่งอืดตลาดแข่งขันสูง ชี้กลุ่มลูกค้าซื้อเพื่อการลงทุนโต “คลังคาซ่า” รายใหญ่เดินหน้าผุดคอนโดฯ ขนาดใหญ่อีก 500 ยูนิตบนทำเลทองสู้ยักษ์ส่วนกลาง พร้อมมุ่งดัน New CBD เมืองย่าโม ล่าสุดดึงโรงพยาบาลใหญ่ร่วมเสริม ขณะแนวราบยังไปได้ “ดิไอคอน” อัดโปรฯ แรง ซื้อบ้านแถมรถ เตรียมผุดบ้านราคาไม่เกิน 2 ล้านตลาดต้องการสูง
วันนี้ (5 มิ.ย.) นายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลังคาซ่า จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ จ.นครราชสีมาและภาคอีสาน เจ้าของโครงการ City Link Condo คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองโคราช เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดนครราชสีมาว่า ในช่วงไตรมาสแรกต่อไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดนครราชสีมายังไม่คึกคักมากนัก อยู่ในภาวะทรงตัวค่อนข้างเงียบเหงา ซึ่งยังมาจากปัจจัยเดิมคือกำลังซื้อของภาคเอกชนและประชาชนไม่กระเตื้องขึ้น ขณะเดียวกันธนาคารยังคงเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเช่นเดิม ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีมากนัก
สำหรับ “คลังคาซ่า” ยังคงเดินหน้าพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวดิ่งเป็นหลัก ภายใต้โครงการซิตี้ลิ้งค์บนเนื้อที่ 300 ไร่ มูลค่าการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ผืนสุดท้ายกลางเมืองโคราช ติด ถ.มิตรภาพ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา การเดินทางสะดวกสบาย ขณะนี้มีพันธมิตรหลายรายเข้ามาร่วมโครงการซิตี้ลิ้งค์ เพื่อสร้างศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New Central Business District : New CBD) ของ จ.นครราชสีมา เช่น โรงเรียนนานาชาติแองโกล สิงคโปร์ มูลค่าลงทุน 400 ล้านบาท ร้านอาหารชื่อดัง ร้านค้าระดับพรีเมียม โรงแรมเครือบิสเนสโฮเทล มูลค่าลงทุน 120 ล้านบาท และล่าสุดคือโรงพยาบาลขนาดใหญ่ มูลค่าลงทุนร่วม 1,000 ล้านบาท จนถึงขณะนี้ได้มีการพัฒนาพื้นที่ไปแล้วกว่าร้อยละ 75
นายไพจิตรกล่าวต่อว่า อสังหาฯ แนวราบขณะนี้ทุกโครงการปิดการขายโครงการทั้งหมดแล้ว “คลังคาซ่า” จึงมุ่งพัฒนาแนวดิ่งเพียงอย่างเดียว คือ โครงการซิตี้ลิ้งค์ คอนโด โดยในเฟสที่ 1 มีทั้งหมด 10 อาคาร รวมกว่า 800 ยูนิต ขณะนี้ขายไปแล้วกว่าร้อยละ 90 เฉพาะต้นปีจนถึงขณะนี้ปิดยอดการขายไปแล้วรวม 120 ยูนิต มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยในปีนี้จะเริ่มก่อสร้างเฟส 2 เป็นคอนโดมิเนียมหรูขนาดใหญ่ อยู่ใกล้กับโรงเรียนนานาชาติแองโกล สิงคโปร์ อีก 2 แท่ง รวมกว่า 500 ยูนิต
สำหรับการแข่งขันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน จ.นครราชสีมานั้น นายไพจิตรกล่าวว่า ตลาดแนวดิ่งในเขตตัวเมืองยังมีการแข่งขันกันสูงแต่ไม่รุนแรงมาก เพราะปัจจัยสำคัญอยู่ที่ทำเลที่ตั้งของโครงการ แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางอย่าง โครงการคอนโด เอสเซ็นท์ นครราชสีมา ขนาด 380 ยูนิต มูลค่า 800 ล้านบาท ของกลุ่มเซ็นทรัล เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งตลาด ก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมมี 2 กลุ่มหลัก คือ ซื้อเพื่ออยู่อาศัย ซื้อให้ลูกหลาน และซื้อเพื่อการลงทุนคือ เปิดให้เช่ารายเดือน ขณะนี้กำลังนิยมมากและผู้ให้เช่าได้ราคาดีมาก
“อย่างไรก็ตาม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดนครราชสีมาปีนี้คาดว่าจะเงียบเหงาและทรงตัวเช่นนี้จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ส.ส. ตลาดอสังหาฯ จึงจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง” นายไพจิตรกล่าว
แนวราบแห่อัดโปรฯ แรง บ้านราคาต่ำ 2 ล้านต้องการสูง
ด้าน ดร.บุญมา อิ่มวิเศษ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์เวลล์ จำกัด เจ้าของหมู่บ้าน “ดิไอคอน” (The icon) บริหารงานภายใต้ บริษัท สตาร์เวลล์ แอสเซท จำกัด บริษัทในเครือ มีทั้งหมด 5 โครงการ รวมกว่า 300 ยูนิต ซึ่งเคยสร้างความฮือฮากับโปรโมชันสุดแรง “ซื้อบ้านแถมเมีย” คือ แถมเงินแต่งงาน พร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเรือนหอ รวมทั้งโปรโมชัน “บอกต่อรับทันที 5 หมื่นบาท” มาแล้ว และล่าสุดอัดโปรโมชัน “ซื้อบ้านแถมรถ” กล่าวว่า อสังหาริมทรัพย์แนวราบใน จ.นครราชสีมายังเป็นตลาดที่ไปได้เรื่อยๆ แม้จะมีการแข่งขันกันสูง และช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมายังไม่มีผู้เล่นหน้าใหม่เป็นรายใหญ่เข้ามาเปิดโครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ขยายหรือเปิดพื้นที่โครงการใหม่เท่านั้น การแข่งขันยังถือว่ารุนแรง
สำหรับโครงการ ดิไอคอน ยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมโครงการและตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะ “ดิไอคอน” เป็นหมู่บ้านที่มีคุณภาพ สมราคา และขณะนี้โปรโมชัน “ซื้อบ้านแถมรถ” ยิ่งสร้างความสนใจให้ลูกค้าเข้ามาเป็นเจ้าของ เพราะเราแจกจริง ไม่ต้องรอลุ้นรถเหมือนโครงการอื่นๆ เมื่อตัดสินใจเป็นเจ้าของทำสัญญาเรียบร้อยเราก็ส่งมอบรถให้ลูกค้าทันที เป็นโปรโมชันที่ถูกใจลูกค้าอย่างมาก ขณะนี้เหลือเพียงไม่กี่หลังสำหรับโปรโมชันดังกล่าว
ผศ.ดร.บุญมากล่าวอีกว่า ดิไอคอนทั้ง 5 โครงการมียอดขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการ 1 ปิดการขายทั้งหมดแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงโครงการที่ 2-5 เท่านั้น ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลทองทุกมุมของโคราช ราคาเริ่มต้นที่ 2-5 ล้านบาท ขายได้แล้วกว่า 70%
“สตาร์เวลล์ ไม่เน้นการแข่งขันกับคู่แข่ง แต่แข่งขันกับตัวเองเป็นหลัก และฉีกแนวการทำธุรกิจให้มีความแตกต่าง โดดเด่น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงใจที่สุด โดยไม่เน้นทำโครงการที่ใหญ่มาก แต่ก้าวย่างด้วยความมั่นคง และจริงจัง ทุกโครงการของสตาร์เวลล์จึงต้องดี และลูกค้าต้องได้รับความประทับใจ เน้นความหรูหราแต่ราคาติดดินทุกโครงการ จึงทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นไว้วางใจที่จะเข้ามาอยู่ในโครงการของเรา” ดร.บุญมากล่าว
“กำลังซื้อของชาวโคราชส่วนใหญ่จะให้ความสนใจซื้อบ้านราคาไม่ถึง 2 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มนี้เป็นตลาดกลุ่มใหญ่มาก ฉะนั้น จากนี้สตาร์เวลล์มีแผนที่จะทำโครงการบ้านจัดสรรในราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่มใหญ่นี้ คาดว่าภายในปีนี้น่าจะสรุปรายละเอียดต่างๆ ได้” ดร.บุญมากล่าวในตอนท้าย