โพลคาดบอลโลกปีนี้เงินสะพัด 7.8 หมื่นล้านบาท ช่วยกระตุ้นจีดีพี 0.3% เผยเป็นวงเงินที่ใช้พนันสูงถึง 5.89 หมื่นล้านบาท แนะรัฐประกาศควบคุมการพนันเป็นวาระแห่งชาติ เหตุเป็นห่วงนักเรียน-นักศึกษาเข้ามาเล่นพนันมากขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจ “พฤติกรรมการใช้จ่ายผลกระทบด้านธุรกิจและสังคมช่วงฟุตบอลโลก 2018” ที่สำรวจระหว่างวันที่ 28 พ.ค. - 2 มิ.ย. 2561 ว่าคาดว่าจะมีมูลค่าการใช้จ่ายในไทยถึง 78,385 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% โดยเป็นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ 17,901 ล้านบาท เช่น ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุปโภคบริโภค การสังสรรค์ เป็นต้น การใช้จ่ายนอกระบบเศรษฐกิจ (พนันบอล) 58,995 ล้านบาท และอื่นๆ 1,488 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีก 0.2-0.3%
“การใช้จ่ายปีนี้แม้ว่าจะสูงถึง 78,385 ล้านบาท แต่ยังน้อยกว่าช่วงเทศกาลฟุตบอลโลก 2014 ที่มีเงินสะพัดถึง 95,154 ล้านบาท ถือว่าครั้งนี้บรรยากาศยังไม่คึกคักเท่าที่ควร หากเทียบกับบรรยากาศเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ส่วนหนึ่งมาจากฟุตบอลทีมดังอย่างอิตาลี และเนเธอร์แลนด์ ทีมขวัญใจมหาชนไม่ผ่านรอบคัดเลือก ประกอบกับฟุตบอลโลกครั้งก่อนผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมีการขายกล่องสัญญาณถ่ายทอดสดด้วย”
ทั้งนี้ ธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากฟุตบอลโลก เช่น ผู้ผลิตและจำหน่ายโทรทัศน์ โดยเฉพาะจอใหญ่ที่ผู้บริโภคจะซื้อมาติดไว้ในบ้านและร้านอาหาร รวมถึงอุปกรณ์รับฟังและรับชม, มือถือที่ให้ภาพคมชัด และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และยังมีธุรกิจร้านอาหาร เครื่องดื่ม ผับ, เสื้อผ้าและอุปกรณ์ในการเชียร์ฟุตบอล, ธุรกิจสื่อสารมวลชนโดยเฉพาะสื่อออนไลน์ ที่จะมีแฟนบอลให้ความสนใจติดตามมากที่สุด, ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำโปรโมชันในการชิงรางวัลทายผลฟุตบอลโลก เป็นต้น
นายธนวรรธน์กล่าวว่า เม็ดเงินที่จะสะพัดช่วงเทศกาลบอลโลก 78,385 ล้านบาท คิดว่าจะมีเพียง 50,000 กว่าล้านบาทที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นจีดีพีในปีนี้ ส่วนที่เหลืออีก 10,000-20,000 ล้านบาท น่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจไทย เพราะเงินจะไปในรูปแบบการพนันออนไลน์ที่มีต้นทางอยู่ในต่างประเทศ หรือเป็นเงินไหลออกโดยตรง ส่วนเงินที่จะสะพัดจากการพนัน 58,995 ล้านบาท ถือว่ามากกว่าครั้งก่อนที่ 55,830 ล้านบาท เพราะคนที่มีรายได้สูงจะใช้เงินเล่นพนักมากขึ้น โดยเฉพาะผ่านช่องทางออนไลน์
“ศูนย์ฯ มีข้อเสนอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ภาครัฐเข้มงวดในการจับปรับและลงโทษการเล่นพนันบอล ส่งเสริมและกระตุ้นให้เด็กทราบถึงผลเสียการเล่นพนันบอล ให้รัฐบาลประกาศควบคุมการพนันเป็นวาระแห่งชาติ ตรวจสอบและตรวจตราเพิ่มขึ้นในการแหล่งชุมชนที่เปิดให้มีโต๊ะพนันบอลอย่างผิดกฎหมาย เป็นต้น” นายธนวรรธน์กล่าว
สำหรับการเล่นพนันช่วงบอลโลก 2018 แม้ว่าผู้ตอบส่วนใหญ่ 57.7% จะระบุว่าไม่เล่นพนันบอล แต่ในส่วนของผู้ที่เล่นพนัน ส่วนใหญ่จะเล่นพนันเฉพาะทีมที่ชอบมากที่สุด และเล่นพนันแต่ละนัดอยู่ที่ 2,065 บาท ขณะที่เล่นตลอดการแข่งขันอยู่ที่ 5,872 บาท โดยเงินส่วนใหญ่จะใช้เงินจากเงินเดือน หรือรายได้ปกติเป็นหลัก รองลงมาเป็น เงินออม โบนัส จากผู้ปกครอง และกู้ยืม โดยพบว่าการเล่นพนันฟุตบอล จะไม่ทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น เพราะคนที่เล่นในวงเงินสูงๆ จะเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงและมั่นคง แต่ที่น่าเป็นห่วงมากสุด คือ กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา