“สมคิด” สั่งลุยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเพิ่มเติม มอบ “พาณิชย์ - เกษตรฯ” ทำแผนเชื่อมโยงแหล่งผลิตอาหาร เกษตร ผลไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ก่อนดึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาไทยปีละ 35 ล้านคนให้เข้าไปเที่ยวชม ตั้งเป้าให้เกิดกระแสปากต่อปาก มั่นใจสร้างรายได้ให้เกษตรกรและชุมชนได้อีกมาก พร้อมให้เร่งโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกแบบเข้มข้น เผย ยังได้ดึงเอ็กซิมแบงก์มาช่วยปล่อยกู้ให้ด้วย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันจัดทำแผนเชื่อมโยงอุตสาหกรรมอาหาร สินค้าเกษตร ผลไม้ เข้ากับการท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยให้ความสำคัญในการดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวไทยปีละ 35 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านคน ไปท่องเที่ยวตามชุมชนต่างๆ ที่เป็นแหล่งการผลิตอาหารที่มีชื่อเสียง แหล่งผลิตสินค้าเกษตร หรือสวนผลไม้ เนื่องจากจะช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และทำให้กลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการในชุมชนได้รับประโยชน์ในการจำหน่ายผลผลิตได้มากขึ้น
“เกษตรและพาณิชย์ต้องทำแผนเชื่อมโยงกัน ต้องช่วยกันผลักดัน ต้องเข้าไปช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการพัฒนาคุณภาพสินค้า ต้องผลิตอาหารที่มีคุณภาพ ปลูกผลผลิตเกษตร ปลูกผลไม้ที่มีคุณภาพ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว เพราะเมื่อเชื่อมโยงและดึงให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมได้แล้ว นักท่องเที่ยวเหล่านี้ก็จะเป็นแอมบาสเดอร์ให้กับแหล่งผลิตอาหาร แหล่งผลิตสินค้าเกษตรและสวนผลไม้ของไทย จากนั้นจะมีการนำไปบอกปากต่อปากถึงความสนุกสนานที่ได้มาเที่ยว และดึงดูดให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในอนาคต” นายสมคิด กล่าว
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องอย่าลืม และต้องให้ความสำคัญ ก็คือ เกษตรกรและผู้ประกอบการ จะต้องรักษาคุณภาพและมาตรฐานเอาไว้ให้ได้ เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สินค้าขายได้ และยังได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์มีการส่งเสริมสินค้าเกษตรและผลไม้ชนิดอื่นๆ ให้เหมือนกับทุเรียน ที่ปัจจุบันนี้ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และแทบจะไม่มีของให้ขายแล้ว
นายสมคิด กล่าวว่า ได้มอบหมายกระทรวงพาณิชย์และหอการค้าไทยไปร่วมกันผลักดันโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกให้ครบวงจรมากขึ้น หลังจากที่ 15 ปีก่อน ตนได้เคยประกาศโครงการดังกล่าวเอาไว้ แต่ยอมรับว่าประกาศเร็วเกินไป เพราะหลายอย่างยังไม่พร้อม แต่ตอนนี้ไทยมีความพร้อมในทุกๆ ด้านแล้ว ทั้งเรื่องคุณภาพอาหาร วัตถุดิบ สินค้าเกษตร พ่อครัวแม่ครัว ระบบ อี-คอมเมิร์ซ เทคโนโลยี นวัตกรรม และกลุ่มสตาร์ทอัป
“ตอนนี้ร้านอาหารไทยในต่างประเทศ และร้านอาหารไทยที่ได้รับเครื่องหมายไทยซีเล็กต์ที่อยู่ในต่างประเทศหลายๆ ร้านมีพ่อครัวเป็นคนต่างชาติ ที่นำอาหารไทยมาปรุงแต่ง และประยุกต์เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่ม กระทรวงพาณิชย์ และ หอการค้าไทย ต้องดึงสตาร์ทอัป และพ่อครัวไทย ให้เข้าไปมีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะพ่อครัวไม่จำเป็นต้องเก่งระดับแถวหน้าเมืองไทย เพราะเรื่องปรุงอาหารสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมกันได้ และดีกว่าที่จะให้คนชาติอื่นไปทำแล้วใช้ชื่อว่าอาหารไทย”
ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาล ได้มอบหมายให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ช่วยส่งเสริมให้การเปิดร้านอาหารของไทยในต่างประเทศให้ง่ายขึ้นแล้ว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่อันดับที่ 3 ของเอเชีย รองจากจีน และ อินเดีย โดยแต่ละปีไทยส่งออกสินค้าอาหารไปทั่วโลก มูลค่าสูงเกือบ 1 ล้านล้านบาท โดยมูลค่าส่งออกมากสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ข้าว ไก่แปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป กุ้งแช่แข็งและแปรรูป และ สิ่งปรุงรสอาหาร ซึ่งมั่นใจว่าจะผลักดันให้ไทยเป็นครัวของโลกได้แน่