บ้านปูนำร่องผุด Smart City ที่โรงเรียนนานาชาติ อ้อน รมว.พลังงานเพิ่มความสะดวกในการเชื่อมสายส่งกับการไฟฟ้า “บีแอลซีพี” เตรียมชงแผนขยายโรงไฟฟ้าถ่านหินพันเมกะวัตต์
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ทางกลุ่มบ้านปูได้เข้าพบ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยมีการหารือถึงทิศทางพลังงาน ซึ่งบริษัทบ้านปู อินฟิเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เป็นผู้ให้บริการด้านการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร One Stop Service ก็มีแผนที่จะทำเมืองอัจฉริยะหรือ Smart City เพื่อตอบสนองนโยบายดิจิทัล 4.0 โดยจะนำร่อง Smart City ในโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งจะมีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage)
ทั้งนี้ การดำเนินการ Smart City จะต้องมีการเชื่อมสายส่งกับ 3 การไฟฟ้าเพื่อสร้างความมั่นคงด้านไฟฟ้า จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อให้การดำเนินการเชื่อมสายส่งกับการไฟฟ้าทำได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น มิฉะนั้น Smart City จะเกิดขึ้นได้ยาก ดังนั้นรัฐต้องมีความชัดเจนเพื่อให้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ทางบริษัท บีแอลซีพี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบ้านปู กับ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (เอ็กโก กรุ๊ป) ยืนยันความพร้อมในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 1 พันเมกะวัตต์ในพื้นที่ใกล้เคียงโรงไฟฟ้าเดิมที่มาบตาพุด จ.ระยอง ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศเดิม (PDP) ที่ต้องการให้มีโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อไม่ต้องการพึ่งพาเชื้อเพลิงใดมากจนเกินไป ซึ่งต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงถ่านหินไม่สูงและมีความพร้อมด้านสายส่งอยู่แล้ว
ทั้งนี้ รมว.พลังงานได้ให้บีแอลซีพีไปทำแผนรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนขยายโรงไฟฟ้าถ่านหินดังกล่าวมาเสนอเพื่อพิจารณาภายใต้แผน PDP ใหม่
นางสมฤดีกล่าวย้ำว่า ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำและมีปริมาณสำรองมากถึง 3 แสนล้านตัน สามารถใช้ได้นาน 300 ปี ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีสะอาดทำให้โรงไฟฟ้าถ่านหินไม่ก่อให้เกิดมลภาวะเหมือนในอดีต ดังนั้นความต้องการใช้ถ่านหินโลกเติบโตปีละ 4-5%