xs
xsm
sm
md
lg

“ชาวเกาะ” ขยายตลาดกะทิ AEC โหมออนไลน์-ปรับระบบผลิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิศักดิ์ เทพผดุงพร
ผู้จัดการรายวัน 360 - “เทพผดุงพร” เร่งขยายตลาดต่างประเทศ “ชาวเกาะ” เจาะตลาดกลุ่มเออีซี นำร่องที่พม่า โอกาสสวย พร้อมโหมช่องทางออนไลน์ทั้งในไทยและต่างประเทศ รับการแข่งขันสูง เปิดตัวสินค้าใหม่ในงานไทยเฟ็กซ์เพียบ



นายอภิศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขายต่างประเทศ และ นายธีติพันธ์ เทพผดุงพร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด ผู้ทำตลาดต่างประเทศของแบรนด์ ชาวเกาะ เปิดเผยว่า ในปี 2561 นี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ทำได้ประมาณ 7,200 ล้านบาท หรืออาจเติบโตเล็กน้อย แต่ในแง่ของปริมาณสินค้าเติบโตมากกว่า 10% ขณะที่ปีที่แล้วรายได้รวมโตจากปี 2559 ที่ทำได้ 6,200 ล้านบาท โดยมียอดขายจากต่างประเทศเป็นหลักกว่า 80% ส่งออกมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และในประเทศ 20%

ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทฯ ได้ลงทุนประมาณ 50 ล้านบาทในการปรับปรุงเครื่องจักรและประสิทธิภาพการผลิตที่โรงงงาน และขยายคลังสินค้าที่โรงงานเดิมที่พุทธมณฑล สาย 4 ซึ่งปัจจุบันมีกำลังผลิตรวม 120,000 ตันต่อเดือน เช่น ผลิตภัณฑ์กะทิ น้ำมันมะพร้าว น้ำมะพร้าว วุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อม ผลิตภัณฑ์มะพร้าวอบกรอบ และอื่นๆ เช่น ผัก ผลไม้ กระป๋อง ไข่นกกระทา เป็นต้น นอกจากนั้นยังเป็นการลงทุนต่อเนื่องจากปีที่แล้วด้วยงบรวม 500 ล้านบาท ในการสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ที่ถนนปิ่นเกล้า พื้นที่กว่า 4 ไร่ เป็นอาคาร 2 หลัง สูง 6 ชั้น จากเดิมที่อยู่ที่ท่าเตียน
ธีติพันธ์ เทพผดุงพร
บริษัทฯ ได้ขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันแม้ว่าจะมีสัดส่วนยอดขายออนไลน์น้อยอยู่ไม่ถึง 5% แต่ก็ถือว่าเป็นช่องทางที่มีแนวโน้มเติบโตดี โดยปีที่แล้วออนไลน์ของเราโตกว่า 100% ซึ่งมีสินค้าจำหน่ายเช่นเดียวกับในร้านค้าปลีก สินค้าที่ขายทางออนไลน์ดีคือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น น้ำมะพร้าว สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท คือแม่บ้านอายุ 25-45 ปี

สำหรับแผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ปีนี้ ที่พร้อมจะเปิดตัวในงานไทยเฟ็กซ์เป็นทางการ วันที่ 29 พ.ค.-2 มิถุนายน ศกนี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เช่น แบรนด์หลักคือ ชาวเกาะ จะเปิดตัวกะทิดื่ม 3 รสชาติ (งาดำ, มันม่วง และเมลอน), สังขยาผงกึ่งสำเร็จรูป 2 รสชาติ (ใบเตย กับวานิลลา), มะพร้าวอบกรอบ รสซอสศรีราชา, ส่วนแบรนด์แม่พลอย เครื่องปรุงรส เปิดตัวน้ำจิ้มไก่สูตรไม่มีน้ำตาล และน้ำพริกแกงสูตรมังสะวิรัติ มี 6 รสชาติ (น้ำพริกแกงเผ็ดแดง, น้ำพริกแกงเขียวหวาน, น้ำพริกแกงพะแนง, น้ำพริกแกงมัสมั่น, น้ำพริกแกงกะหรี่, เครื่องต้มยำ) ซึ่งจะเน้นการส่งออกเป็นหลัก ส่วนตลาดในไทยจะเน้นการโปรโมตผลิตภัณฑ์กะทิถุงพาสเจอไรซ์ ตราชาวเกาะ ซึ่งสินค้ากลุ่มสแน็กและเครื่องดื่มกะทิเพิ่งเริ่มทำตลาดเมื่อปีที่แล้ว

นายธีติพันธ์กล่าวว่า กลุ่มสินค้าขายดี 3 อันดับคือ กะทิสำเร็จรูป น้ำมะพร้าว และน้ำจิ้มไก่ ซึ่งทั้ง 3 สินค้านี้ได้ขยายตลาดในกลุ่มประเทศต่างๆ มากขึ้นต่อเนื่อง โดยตลาดหลักที่ อเมริกา แคนาดา สัดส่วน 56% ส่วนในโซนอื่นๆ เช่น ยุโรป สัดส่วน 13% โอเชียเนีย สัดส่วน 16% เอเชีย และอื่นๆ รวม 15%

“ปีที่แล้วเราได้เริ่มขยายตลาดกลุ่มประเทศเออีซี โดยนำสินค้าจำหน่ายผ่านดิสทริบิวเตอร์ในพม่า เป็นประเทศแรกในกลุ่มเออีซีที่เราทดลองตลาด พบว่าการตอบรับดีมาก ดีมานด์สูงมาก ตลาดค่อนข้างใหญ่ ยอดขายน่าพอใจโอกาสเติบโตสูง ซึ่งทิศทางการตลลาดของแบรนด์ ชาวเกาะ และ แม่พลอย ที่เรายังคงเน้นสัดส่วนออฟไลน์ที่ 70% และออนไลน์ 30% โดยเราได้เพิ่มการทำตลาดบนออนไลน์และใช้โซเชียลมีเดียในไทย และในแต่ละประเทศมากยิ่งขึ้น เนื่องจากต้องการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็วในการซื้อสินค้า เพราะปัจจุบันมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดและแย่งตลาดต่อเนื่อง และตลาดรวมก็แข่งขันรุนแรงมากขึ้น” นายธีติพันธ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น