ผู้จัดการรายวัน360 – “เคอรี่เอ็กซ์เพรส” โหมหนัก ทุ่มงบปีนี้ 1,800 ล้านบาท รุกหนัก เพิ่มเครือข่ายจุดรับส่งเป้าหมาย 2,500 แห่งสิ้นปีนี้ ขยายรีเทลเชนรายใหญ่ ผนึกบีทีเอสจัดส่งรูปแบบใหม่หลังบีทีเอสถือหุ้น
นายอเล็กซ์ อึ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคอรี เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2561 นี้ เคอรี่ฯมีแผนที่จะใช้เงินลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจในทุกด้าน ทั้งจำนวนบุคลากร จุดรับบริการ คลังสินค้า การเช่ายานพาหนะเพิ่มขึ้น เป็นต้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและรักษาความเป็นผู้นำในตลาดธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนในไทย ที่เคอรี่มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 80% ในแง่ของปริมาณออร์เดอร์หรือจำนวนพัสดุ ซึ่งคาดว่าตลาดรวมจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกับกรณีการเข้ามาเป็นพันธมิตรถือหุ้นในเคอรี่ฯของกลุ่มบีทีเอสนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนงานๆหลังจากการถือหุ้นได้ แต่ถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งและการขยายธุรกิจของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี และคาดว่าเร็วๆนี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงและความร่วมมือที่เกิดขึ้นได้โยเฉพาะในไตรมาสที่สามที่จะเริ่มมีการรับส่งพัสดุผ่านเครือข่ายรถไฟฟ้าบีทีเอสด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้การลงทุนปีนี้หลักๆก็เช่น จะขยายพื้นที่คลังสินค้าที่ถนนบางนา-ตราด เฟสที่สอง รวมเพิ่มเป็น 36,000 ตารางเมตร คาดว่าไตรมาสที่สามจะแล้วเสร็จ และยังมีพื้นที่เพิ่มอีกรอการขยาย 40,000 ตารางเมตร ส่งผลให้ขณะนี้มีคลังสินค้าขนาดใหญ่ 3 แห่ง คือที่ บางนา-ตราด ปทุมธานี และ สมุทรสาคร เพื่อรองรับเป้าหมายการเติบโตของปริมาณพัสดุที่เคอรี่ตั้งเป้าปีนี้เพิ่มเป็น 1 ล้านชิ้นต่อวัน จากปัจจุบันเฉลี่ยที่ 7.5 แสนชิ้นต่อวัน ซึ่งเติบโตกว่า 100% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นการขนส่งพัสดุขนาดเล็กที่มีน้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 30 กิโลกรัมต่อกล่อง
ส่วนจุดบริการก็จะมีการเพิ่มอีกต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มี 3 แบบหลักคือ 1.พาร์เซิ้ลชอปที่เป็นสาขาของบริษัทฯเอง 2.ร้านค้าย่อยหรือเอสเอ็มอีที่เป็นพันธมิตรหน้าร้าน และ 3. พันธมิตรที่เป็นรีเทลเชนรายใหญ่ ปัจจุบันมี 3 แบรนด์หลัก คือ ท็อปส์เดลี่ ออฟฟิศเมท และแฟมิลี่มาร์ท ที่เป็นจุดให้ลูกค้านำพัสดุมาฝากเพื่อส่งได้ และบริการใหม่ที่จะเริ่มได้ในไตรมาสที่สามนี้คือ เซลฟ์คอลเลค หรือ Self Collect ที่ลูกค้าสามารถจะเลือกได้ว่าจจะมารับพัสดุที่จุดใด เวลาใด วันใด ซึ่งทุกรูปแบบมีรวม 1,800 จุด และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2,500 จุดในสิ้นปีนี้
“เราจะมีบริการที่พร้อมส่งสินค้าถึงมือลูกค้าแบบมีมาตรฐานและคุณภาพหลายแบบ เช่น การบริการจัดส่งถึงมือผู้รับภายในวันถัดไป (ND) ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการเกือบ 100% ซึ่งในปีนี้เราก็เพิ่งมีการลงทุนขยายเครือข่ายบริการจัดส่งเร่งด่วนภายใน 1 วัน หรือเรียกว่า แบงคอกเซมเดย์ ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นต้น” นายอเล็กซ์ กล่าว
นอกจากนั้น ปีนี้คาดว่าจะให้บริการได้สมบูรณ์แบบกับการบริหารที่เรียกว่า ครอส บอร์เดอร์ โซลูชั่น คือ การให้บริการครบวงจรจากสินค้าที่ลูกค้าสั่งมาและส่งมาจากจีนเข้าที่ไทย ซึ่งเคอรี่จะให้บริการแบบครบวงจรทั้งการประสานงานกับศุลกากร การนำเข้า การตรวจสินค้าทุกอย่างตามกระบวนการและขั้นตอน ที่เริ่มบ้างแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งแนวโน้มที่คนไทยสั่งซื้อสินค้าจากจีนจะมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมตัวรองรับการให้บริการในรูปแบบนี้ และมีโอกาสที่จะเติบโตมากในอนาคตด้วย