“พาณิชย์” สั่งตรวจสอบด่วน หลังโลกออนไลน์แชร์กระหน่ำภาพร้านค้าธงฟ้าประชารัฐขึ้นป้ายขอคิดเงินค่ารูดบัตรเพิ่ม 5% ยันหากพบผิดจริงไล่ออกสถานเดียว พร้อมยึดเครื่องรูดบัตรคืน ย้ำประชาชนถ้าพบเห็นหรือโดนเอารัดเอาเปรียบร้องสายด่วน 1569 ได้ทันที ด้านยอดขายร้านค้าธงฟ้าประชารัฐผ่าน 7 เดือนทะลุ 2.2 หมื่นล้านแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานกระทรวงพาณิชย์ว่า นายวิชัย โภชนกิจ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดออกไปตรวจสอบร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่มีการประกาศว่าจะเริ่มเก็บเงินค่ารูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจากผู้ถือบัตรที่นำมารูดซื้อสินค้าในอัตรา 5% ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2561 เป็นต้นไปว่าอยู่ในจังหวัดไหน และหากพบว่ามีการดำเนินการในลักษณะนี้จริงก็ให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด คือ ให้ปลดออกจากการเข้าร่วมโครงการ และยึดเครื่องรูดบัตรคืน เพราะถือว่าเป็นการทำผิดเงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2561 ได้มีการแชร์ภาพป้ายของร้านค้าธงฟ้าประชารัฐแห่งหนึ่งในโลกโซเชียล โดยภาพดังกล่าวมีข้อความว่า “ทางร้านจะแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปทางร้านขอเก็บเงินจากบัตรรูดร้อยละ 5% บัตร 200 เก็บ 10, 300 เก็บ 15, 500 เก็บ 25 ทางร้านต้องจ่ายภาษีร้อยละ 7% ขอบคุณเจ้า” และหลังจากที่ภาพดังกล่าวออกไป ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก พร้อมระบุว่า เก็บค่ารูดบัตรแพงกว่าบัตรเครดิตเสียอีก และเป็นการเอาเปรียบคนจนที่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐต้องปฏิบัติ เช่น ให้มีการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าประชารัฐในราคาไม่สูงกว่าที่กรมฯ กำหนด ไม่ฉวยโอกาสปรับราคาจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้น ต้องปิดป้ายแสดงราคา ห้ามคิดเงินเพิ่มจากราคาสินค้า เช่น คิดค่ารูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คิดภาษีมูลค่าเพิ่มซ้ำซ้อน คิดค่าธรรมเนียม เป็นต้น โดยประชาชนที่พบเห็นและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 ซึ่งหากพบผิดจริงจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดในการเพิกถอนการเข้าร่วมโครงการ และหากพบว่ามีการจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินจริง อาจเข้าข่ายผิดมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ปัจจุบันมีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ 18,653 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อย 11.43 ล้านคน สามารถซื้อสินค้า โดยมีผลการดำเนินงานโครงการฯ 7 เดือน (ต.ค. 2560-เม.ย. 2561) มียอดใช้จ่ายมากกว่า 22,000 ล้านบาท และในเฟสที่ 2 จะมีการเพิ่มเครื่อง EDC อีก 20,000 เครื่อง เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น โดยเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐของกระทรวงพาณิชย์ 10,000 เครื่อง และเป็นร้านค้าของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ 10,000 เครื่อง
สำหรับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รัฐบาลได้เริ่มแจกเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2560 และเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560 โดยบัตรดังกล่าวจะมีวงเงินซื้อสินค้าที่มีสัญลักษณ์ธงฟ้าประชารัฐ และมีเครื่องรับเงิน EDC โดยวงเงินจะแบ่งตามรายได้ คือ กลุ่มที่ 1 รายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับวงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อเดือน กลุ่มที่ 2 รายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับวงเงินซื้อสินค้า 200 บาทต่อเดือน ต่อมาได้ทำโครงการเฟส 2 มีการปรับเพิ่มวงเงิน โดยรายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อปีได้วงเงินเพิ่มอีก 200 บาทต่อเดือน จากปัจจุบัน 300 บาทต่อเดือน เป็น 500 บาทต่อเดือน ส่วนที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้วงเงินช่วยเหลือเพิ่ม 100 บาทต่อเดือน เพิ่มจาก 200 บาทต่อเดือนเป็น 300 บาทต่อเดือน