“พาณิชย์” ลงพื้นที่ตรวจร้านธงฟ้าประชารัฐที่ จ.สุพรรณบุรี และอ่างทอง เผยมีความพร้อมรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค.นี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 18 ก.ย. 2560 ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่ร้านสมิงบ้านไร่ ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี และที่ร้านแต้ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ อ.เมือง จ.อ่างทอง เพื่อติดตามความพร้อมในการเปิดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และตรวจสอบความพร้อมของการติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) เพื่อรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560 ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งจัดส่งรายชื่อร้านค้าปลีกรายย่อยที่สมัครเข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐให้กับกรมบัญชีกลาง เพื่อให้เข้าไปติดตั้งเครื่องรูดบัตร โดยตั้งเป้าที่จะผลักดันให้มีร้านธงฟ้าประชารัฐที่พร้อมเปิดให้บริการตำบลละ 1 แห่ง ในวันที่ 1 ต.ค. 2560 แต่จากการหารือร่วมกับกรมบัญชีกลางได้รับแจ้งว่าน่าจะติดตั้งได้ประมาณ 2,000 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 6,000 แห่งจะเร่งติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมที่จะจัดทำรถธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่ หรือโมบายล์ยูนิต นำสินค้าธงฟ้าประชารัฐจำหน่ายบนรถยนต์ ซึ่งจะติดตั้งเครื่อง EDC ให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถใช้บัตรสวัสดิการรูดซื้อสินค้าได้ โดยจะเน้นจัดส่งเข้าไปในพื้นที่ที่มีร้านธงฟ้าประชารัฐแต่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการรับรูดบัตรได้ หรือในพื้นที่ที่ไม่มีร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งได้ตั้งเป้าให้มีรถธงฟ้าประชารัฐเคลื่อนที่อย่างน้อยอำเภอละ 1 คัน เพื่อกระจายสินค้าให้ผู้มีรายได้น้อยได้ซื้อในช่วงที่ยังไม่สามารถซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐได้
ส่วนรายการสินค้าที่จะจำหน่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ล่าสุดได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตและผู้จำหน่ายกว่า 50 ราย แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการ โดยจะนำสินค้ามาจำหน่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐรวมกว่า 252 รายการ ใน 3 กลุ่มสินค้าหลักตามที่ กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดไว้ คือ สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น อุปกรณ์และชุดนักเรียน และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร เช่น ปุ๋ยเคมี เป็นต้น
นอกจากนี้ นายสนธิรัตน์ยังตรวจเยี่ยมตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตร (ผัก ผลไม้ และสัตว์น้ำ) ณ ตลาดสุวพันธ์ อ.เมือง จ.อ่างทอง
สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นบัตรที่รัฐบาลได้ออกให้ผู้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยจำนวน 11.67 ล้านคน โดยจะให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรฯ 2 หมวด ได้แก่ หมวดการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วย 1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้รับ 300 บาทต่อคนต่อเดือน ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท จะได้รับ 200 บาทต่อคนต่อเดือน และ 2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้า ที่กระทรวงพลังงาน กำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน และหมวดการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งประกอบด้วย 1. วงเงินค่าโดยสารรถเมล์/รถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน 2. วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน และ 3. วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน
