xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” จับตาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยันมีแผนรับมือป้องกันผลกระทบแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” ยันจับตาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนใกล้ชิด เผยขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบ แต่ได้ทำแผนรับมือแล้ว เพราะหากเหตุการณ์บานปลาย ไทยคงเลี่ยงผลกระทบไม่ได้ เล็งหาตลาดใหม่รองรับ และเล็งจัดการสินค้าที่ประเทศอื่นส่งออกไปสหรัฐฯ และจีนไม่ได้ทะลักเข้ามาไทย พร้อมเดินหน้าใช้หุ้นส่วนเศรษฐกิจเปิดตลาดการค้า การลงทุน และท่องเที่ยวให้ไทย ล่าสุดจับมือทำกับอินเดีย

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และการใช้มาตรการทางการค้าของทั้งสองประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมตัวป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อไทย แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่มีผลกระทบใดๆ เกิดขึ้น แต่ก็ต้องเตรียมตัวไว้ก่อนเพราะไทยเป็นประเทศเล็กอาจจะได้รับผลกระทบได้ หากทั้งสองประเทศซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นของโลกมีมาตรการหรือการดำเนินการที่จะทำให้เกิดสงครามการค้าเกิดขึ้น

“แนวทางแก้ปัญหาได้มองหาตลาดใหม่สำหรับการส่งออกเพื่อทดแทนตลาดสหรัฐฯ และจีน ที่สินค้าไทยอาจจะได้รับผลกระทบ และได้เตรียมใช้มาตรการป้องกันไม่ให้สินค้าจากประเทศอื่นที่อาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า และไม่สามารถส่งออกไปยังทั้งสองประเทศได้ ทะลักเข้ามายังไทยจนกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศด้วย”

ส่วนสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรีย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อการค้าของไทย โดยกระทรวงฯ ได้มีการติดตามสถานการณ์ในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกัน และฝ่ายความมั่นคงของไทย ก็มีการติดตามสถานการณ์อยู่แล้วด้วย โดยคาดว่าสถานการณ์จะไม่น่าจะลุกลามไปมากกว่านี้

น.ส.ชุติมากล่าวว่า ในการแก้ปัญหาผลกระทบทางการค้าที่อาจจะเกิดขึ้น กระทรวงฯ ได้เดินหน้าสร้างหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจกับประเทศคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้ร่วมมือกับอินเดียในการขยายการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในรัฐอุตตรขัณฑ์ โดยมีแผนที่จะผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยออกไปลงทุน เพราะมีโอกาสสูงมาก ทั้งอุตสาหกรรมเกษตร แปรรูปอาหาร ยา การดูแลสุขภาพ บริการด้านการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม สปา และร้านอาหาร และยังเป็นแหล่งวัตถุดิบผลไม้และผักเมืองหนาว เช่น แพร์ พีช พลัม มะเขือเทศ และมันฝรั่ง

ขณะที่อินเดียได้แสดงความสนใจในการเข้ามาลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพราะเห็นว่าไทยมีศักยภาพในการลงทุน ซึ่งปัจจุบันอินเดียมีการลงทุนในไทยมูลค่า 4,865.27 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยลงทุนในอินเดียมูลค่า 8,144 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูป เหมืองแร่ เซรามิก โลหะขั้นพื้นที่ อัญมณีและเครื่องประดับ เมลามีน จักรยาน ชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องจักร เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น