การรถไฟฯ พ่วงตู้เต็มพิกัด เดินรถสงกรานต์เข้มจุดตัดอุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์

การรถไฟฯ เดินรถพร้อมพ่วงตู้โดยสารเต็มหน่วยลากจูงใน 242 ขบวน รองรับประชาชนเดินทางช่วงสงกรานต์ได้วันละ1.2-1.5 หมื่นคน รณรงค์โครงการ 1+1 = 0 จุดตัด ทางรถไฟทั่วประเทศ 2,684 แห่ง อุบัติเหตุเป็นศูนย์ ยันพนักงานขาดแคลนแต่ไม่กระทบบริการ และการเดินรถเน้นความปลอดภัยสูงสุด

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวันคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางโดยรถไฟกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทำให้มีปริมาณการโดยสารของขบวนรถเส้นทางต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชน โดยการพ่วงตู้โดยสารเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่มีการวิ่งให้บริการ จำนวน 242 ขบวน และประกาศเดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร เพิ่มเติมจากขบวนประจำอีก 20 ขบวน ในระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน 2561 (เที่ยวไป 9 ขบวน) รองรับผู้โดยสารได้ 12,500 คน และวันที่ 15-17 เมษายน 2561 (เที่ยวกลับ 11 ขบวน) รองรับผู้โดยสารได้ 15,500 คนต่อวัน คาดว่าเพียงพอต่อความต้องการเดินทางของประชาชน

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้ประสานความร่วมมือกับกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่างๆ จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเฝ้าระวังป้องกันการเกิดอุบัติเหตุระหว่างจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟกับรถยนต์ พร้อมทั้งรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับป้ายเตือน/ป้ายอาณัติสัญญาณ/เครื่องอาณัติสัญญาณต่างๆ บริเวณจุดตัดที่หยุดรถยมราช สถานีสามเสน ในโครงการ 1+1 = 0 พร้อมกันนี้ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ “ล้างส้วมพร้อมกัน รับวันสงกรานต์ - Toilet Big Cleaning Days” โดยการทำความสะอาดห้องน้ำและบริเวณโดยรอบสถานี รางรถไฟ และเครื่องกั้นบริเวณทางตัดผ่านถนนเสมอระดับรถยนต์ทั่วประเทศ

นางสิริมา หิรัญเจริญเวช รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กลุ่มยุทธศาสตร์ กล่าวว่า อุบัติเหตุของรถไฟกว่า 87% เกิดขึ้นบริเวณจุดตัด ซึ่ง ร.ฟ.ท.ได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหา โดยโครงการ 1+1 = 0 กิจกรรมรณรงค์นี้มีเป้าหมายว่า อุบัติเหตุทางตัดรถไฟเป็นศูนย์ ทั้งนี้ มีข้อแนะนำในการขับขี่ผ่านจึดตัดทางรถไฟ คือ 1. หยุดรถห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร 2. ห้ามขับรถแซงหน้ารถอื่นภายในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงจึดตัดทางรถไฟ 3. จอดรถห่างจากจุดตัดทางรถไฟไม่น้อยกว่า 15 เมตร 4. สังเกตป้าย “ระวังรถไฟ”

โดยปัจจุบันมีจุดตัดทางรถไฟทั้งหมด 2,684 แห่ง โดยเป็นทางต่างระดับ 406 แห่ง (ทางลอด 214แห่ง ทางข้าม 192 แห่ง) ทางตัดที่มีเครื่องกั้นโดยมีพนักงานควบคุม 440 แห่ง, ทางตัดที่มีเครื่องกั้นอัตโนมัติ 985 แห่ง, ทางตัดที่มีป้ายจราจรเตือน 226 แห่ง, ทางลักผ่าน 621 แห่ง และมีทางตัดของเอกชน อีก 6 แห่ง

สำหรับจำนวนพนักงานและลูกจ้างในปัจจุบัน 1.4 หมื่นคน แม้จะมีน้อยกว่าความต้องการ แต่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถบริหารจัดการพนักงานประจำบนขบวนรถได้ ไม่มีผลกระทบต่อการใหับริการและงานด้านความปลอดภัย

นอกจากนี้ ได้ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ การตรวจหาสารเสพติดพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ และประจำสถานี ก่อนปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดเรื่องห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติด บนขบวนรถและบริเวณสถานีรถไฟ โดยได้ประสานงานขอความร่วมมือไปยังบังคับการตำรวจรถไฟ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดอีกทาง ซึ่งในช่วงเทศกาลมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นจึงขอความร่วมมือมายังประชาชนที่เดินทาง ขอให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยในการโดยสารรถไฟ ห้ามยืนระหว่างหัวต่อรถโดยสาร และห้ามใช้บันไดเป็นที่โดยสาร ห้ามขึ้นรถในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่เพราะอาจพลัดตกเสียชีวิตได้ ระมัดระวังทรัพย์สินมีค่าของท่าน อย่าฝากสิ่งของที่มีค่าไว้กับบุคคลแปลกหน้า เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้ประกาศงดเดินขบวนรถนำเที่ยวเส้นทางกรุงเทพ-สวนสนประดิพัทธ์ กรุงเทพ-น้ำตกไทรโยค ในวันที่ 12-17 เมษายน 2561 ซึ่งเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย