ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 มี.ค.) เวลา 13.30 น. นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้เดินทางไปยังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักงานใหญ่ บางกรวย เพื่อลงนาม (MOU) กับเครือข่ายคนเทพาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดย MOU ดังกล่าวมีสาระสำคัญ 5 ข้อ ดังนี้
1. ฝ่ายสนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้าเทพา ยินดีให้มีการจัดทำการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ โดยมีคณะกรรมการที่เป็นกลางและมีกระบวนการทำงานตามหลักสากลที่เป็นกลาง
2. การทำ SEA จะต้องให้ความสำคัญไปที่โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเนื่องจากถูกพิจารณาให้เป็นพื้นที่โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามแผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) มาตั้งแต่ต้นตามนโยบายของรัฐ
3. ให้กระทรวงพลังงานนำข้อมูลรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(EHIA) ของท่าเทียบเรือสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาที่ดำเนินการแล้วมาเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำ SEA
4. หากผลการศึกษา SEA ได้ข้อสรุปให้สามารถสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาได้ ให้ กฟผ.นำรายงาน EHIA โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาที่มีอยู่แล้วยื่นต่อ สผ. และดำเนินการศึกษา EHAI ของท่าเทียบเรือสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี
5. หากผลการศึกษา SEA ไม่เห็นชอบกับการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เทพา ให้ กฟผ.พิจารณาพื้นที่อื่นที่เหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินต่อไป
ทั้งนี้ หลังการลงนาม นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงานได้กล่าวกับเครือข่ายคนเทพาฯ ที่ปักหลักชุมนุมหน้า กฟผ.เพื่อเรียกร้องให้เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเป็นเวลาตั้งแต่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า
“นายกรัฐมนตรีท่านมีความเป็นห่วงด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ของทุกท่าน จึงฝากบอกให้ กฟผ.ดูแลทุกคน และเข้าใจว่าทุกคนรักท้องถิ่นและประเทศชาติ เราเองก็จะทำให้ดีที่สุด ความเห็นต่างกันได้แต่ต้องไม่แตกแยก ประเทศไทยจะต้องเดินหน้าไปด้วยกัน กระทรวงพลังงานและรัฐบาลก็เข้าใจถึงความสำคัญของการพัฒนาภาคใต้ให้ทัดเทียมไม่ใช่แค่กับไทย แต่ต้องทัดเทียมกับประเทศที่เจริญแล้ว”
นายศิริกล่าวต่อว่า สัปดาหน้าจะลงไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อจะนำเอากิจการด้านพลังงานมาสร้างเศรษฐกิจและความมั่นคงให้แก่ประเทศ โดยเฉพาะชุมชนที่จะต้องได้รับประโยชน์
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ หรือ SEA กล่าวว่า ขณะนี้รายชื่อกรรมการ SEA ได้มีการเสนอชื่อปรับเปลี่ยนบางท่านเพื่อให้เป็นที่พอใจของทุกฝ่ายเพื่อเสนอ รมว.พลังงานเห็นชอบอีกครั้งเร็วๆ นี้ หากไม่มีปัญหาใดๆ ก็คาดว่าจะประชุมได้ในสัปดาห์หน้า
“เดิมกำหนดกรอบให้ศึกษา SEA 9 เดือน ซึ่งอาจต้องใช้เวลามากขึ้นอีกเล็กน้อย ซึ่ง MOU ครั้งนี้จะต้องรอผลศึกษาของ SEA ว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่สุดจะให้เดินหน้าหรือไม่ ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมเองก็พอใจ” น.ส.นันธิกากล่าว
นายพณวรรธน์ พงศ์ประยูร เลขาฯ เครือข่ายคนเทพาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กล่าวว่า ผู้ชุมนุมรู้สึกสบายใจเมื่อทราบว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินจะยังคงอยู่ในแผน PDP แต่คงต้องรอผลการศึกษา SEA ภายใน 1 ปีก่อนว่าจะเป็นอย่างไรยังไม่อยากให้สมมติว่าจะเกิดไม่ได้ แต่หากที่สุดผลศึกษาไม่สามารถเดินหน้าได้จริงก็ต้องดูเหตุและผล อย่างไรก็ตาม รมว.พลังงานก็ยืนยันว่าพร้อมจะดูแลชาวเทพาไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น