xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ผลิตไทยจับมือผู้นำเข้าสหรัฐฯ ยื่นขอเว้นภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เผยความคืบหน้าแก้ปัญหาสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม ผู้ผลิตไทยประสานผู้นำเข้าสหรัฐฯ ยื่นขอยกเว้นการเก็บภาษีเป็นรายพิกัดและรายบริษัท ทั้งท่อ เหล็กรีดเย็น และสเตนเลสแล้ว หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ออกหลักเกณฑ์ให้ยื่นสิทธิ์ ระบุยังได้เตรียมยื่นขอยกเว้นเป็นรายประเทศและหยิบข้อกังวลขึ้นหารือในเวที TIFA เดือน เม.ย.นี้ด้วย

นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ผลิตเหล็กและอะลูมิเนียมของไทยอยู่ระหว่างการประสานกับผู้นำเข้าเหล็กของสหรัฐฯ เพื่อให้ยื่นขอยกเว้นการเก็บอากรนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็นรายพิกัด หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ออกประกาศรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการภายใต้มาตรา 232 (National Security) กับสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่จะเรียกเก็บอากรนำเข้าจากทั่วโลกในอัตรา 25% และ 10% ตามลำดับ โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 23 มี.ค. 2561 สามารถยื่นขอยกเว้นการใช้มาตรา 232 ได้

ทั้งนี้ ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้กำหนดให้บุคคลหรือองค์กรที่ใช้สินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมเพื่อธุรกิจในสหรัฐฯ เช่น ก่อสร้าง โรงงาน หรือผู้จัดหาให้ผู้ใช้ (ซื้อมาขายไปในสหรัฐฯ) มีสิทธิ์ยื่นขอยกเว้นตามประกาศ และเมื่อยื่นข้อมูลขอยกเว้นกับกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แล้ว ยังกำหนดให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยหรือผู้คัดค้านสามารถมีสิทธิ์โต้แย้งการขอยกเว้นได้ภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่ที่มีการยื่นขอยกเว้น ส่วนหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าจะยกเว้นให้หรือไม่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะพิจารณาว่าสินค้าชนิดนั้นมีการผลิตในสหรัฐฯ เพียงพอหรือไม่ หรือสินค้าที่ผลิตในสหรัฐฯ ไม่มีคุณภาพเพียงพอ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความมั่นคงของประเทศด้วย

“หลังจากนี้ผู้ผลิตเหล็กไทยที่ส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมไปสหรัฐฯ จะต้องประสานกับผู้นำเข้า ซึ่งเป็นลูกค้าของผู้ผลิตเหล็กไทย เพื่อให้ผู้นำเข้ายื่นข้อมูลขอยกเว้นกับกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้จำกัดระยะเวลาของการยื่น” นายวันชัยกล่าว

สำหรับเหล็กและอะลูมิเนียมที่ผู้ผลิตไทยจะประสานให้ผู้นำเข้าสหรัฐฯ ยื่นขอยกเว้นจะมีทั้งรายพิกัดและรายบริษัท โดยพิกัดเหล็กที่ไทยจะยื่นขอยกเว้น ได้แก่ ท่อ แผ่นเหล็กรีดเย็น และสเตนเลส (ไร้สนิม) โดยสินค้าชนิดดังกล่าวสหรัฐฯ มีกำลังการผลิตไม่เพียงพอ หรือผลิตได้แต่บางโรงงานอาจจะไม่ผลิตเนื่องจากเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ไทยสามารถยื่นขอยกเว้นได้

ล่าสุด นอกเหนือจากการดำเนินการของภาคเอกชนในการยื่นขอยกเว้นเป็นรายสินค้าแล้ว กระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดตามในส่วนของการยกเว้นเป็นรายประเทศ ที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เป็นผู้รับผิดชอบ โดยขณะนี้ยังไม่มีการประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการออกมาแต่อย่างใด แต่กรมฯ และหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อจัดเตรียมข้อมูลในการดำเนินการยื่นขอการยกเว้นจากการถูกใช้มาตรการเป็นรายประเทศ เพื่อให้สหรัฐฯ ถอดรายชื่อประเทศไทยจากการใช้มาตรการดังกล่าวต่อไป รวมทั้งจะหยิบยกปัญหาผลกระทบที่ได้รับจากการใช้มาตรการภายใต้มาตรา 232 ขึ้นหารือในเวทีการประชุม Trade and Investment Framework Agreement (TIFA) ในเดือน เม.ย. 2561 ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น