ผู้จัดการรายวัน 360 - “เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป” วางเป้าหมาย 5 ปีปั้นรายได้อาหารทะลุ 1 หมื่นล้านบาท บุกหนักอาหารไทยกับญี่ปุ่น ซุ่มพัฒนาและเทกโอเวอร์แบรนด์ต่อเนื่อง ล่าสุดซื้อร้าน ซูชิซู และพัฒนาแบรนด์ใหม่ มุฉะ เน้นขายแฟรนไชส์ เร่งปิดดีลขยายต่างประเทศที่อินโดนีเซีย-มาเลเซีย
นายสรรคนนท์ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้ 5 ปีจากนี้ (2561-2565) จะมีประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจอาหารเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพเป็นสิ่งที่ตรงกับเทรนด์ผู้บริโภค โดยจะขยายตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศรวมทั้งระบบแฟรนไชส์ด้วย
จากปัจจุบันมีจำนวน 13 แบรนด์ในเครือครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายในตลาดอาหารไทยและอาหารญี่ปุ่น ล่าสุดปีที่แล้ว (2560) ได้ซื้อกิจการร้านซูชิวู อาหารญี่ปุ่นพรีเมียม และเปิดแบรนด์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาเองคือ มุฉะ เป็นร้านข้าวหน้าต่างๆ สไตล์ญี่ปุ่น โดยสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มพรีเมียม 10% กลุ่มกลาง 40% และกลุ่มแมส 50%
นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจแบรนด์ บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตปีละ 25% เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายจากนี้ 5 ปีรายได้รวม 10,000 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปัจจุบันนี้ และคาดว่าจะมีสาขารวม 600 สาขา ซึ่งปีที่แล้วผลประกอบการรวมเติบโต 15% จากจำนวนรวม 13 แบรนด์ รวม 242 สาขา อีกทั้งปีนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมลงทุนสร้างครัวกลางใหม่ด้วย
นโยบายจะมุ่งเน้นร้านอาหารไทยซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มากกว่าแสนล้านบาทแต่ที่เป็นเชนใหญ่ๆ มีน้อยราย สัดส่วนรายได้จากร้านอาหารไทยของเราขณะนี้ 20% จากรายได้รวม ขณะที่ตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นก็เป็นตลาดที่ยังเติบโตแม้ว่าตลาดรวมกว่า 22,000 ล้านบาทปีที่แล้วจะโตน้อยเพียง 5% จาก 3 ปีก่อนนี้โตเฉลี่ย 10% ต่อปี ซึ่งเรามีรายได้จากร้านอาหารญี่ปุ่น 80% จากรายได้รวม ตั้งเป้าหมายจากนี้จะเป็นอาหารญี่ปุ่น 65% และอาหารไทย 35% รวมทั้งยังพัฒนาแบรนด์ใหม่และการซื้อกิจการถ้ามีโอกาส รวมทั้งความสนใจเข้าสู่ตลาดอาหารหวานรับประทานเล่นหรือคาเฟ่เบเกอรีด้วย และการขายแฟรนไชส์
ในส่วนของบริษัทฯ จะใช้งบลงทุน 250-300 ล้านบาทต่อปี ขยายสาขาปีนี้รวม 55 สาขา แบ่งเป็น บริษัทฯ 20 สาขา และแฟรนไชส์ 35 สาขา จากปีที่แล้วเปิด 40 สาขา ซึ่งแบรนด์ที่ขายแฟรนไชส์ คือ ร้านอาหารไทยทั้งหลาย เช่น ตำมั่ว ขณะนี้มี 111 สาขา เป็นแฟรนไชส์ 80% และแบรนด์ใหม่คือ มุฉะ มี 1 สาขาที่บิ๊กซีนครปฐม ปีนี้จะเน้นเปิดแบรนด์มุฉะ มากถึง 12 สาขา
นอกจากในไทยแล้วยังมีที่ต่างประเทศด้วย คือ พม่า มี ตำมั่ว 1 สาขา และเฝอ 2 สาขา, ที่ลาว มีแจ่วฮ้อน 1 สาขา และ ตำมั่ว 2 สาขา, ที่กัมพูชา มีตำมั่ว 1 สาขา และอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้สนใจในอินโดนีเซียกับมาเลเซียหลายราย แต่คาดว่าจะเลือกเพียง 1 ราย โดยสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศขณะนี้เพียง 2% คาดว่าอีก 5 ปีจะเป็น 20%
นายธันยเชษฐ์กล่าวต่อว่า ธุรกิจอื่นก็จะขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งผลิตภัณฑ์ เช่น ปลาร้า แจ่วบอง เป็นต้น วางขายในร้านในเครือรวม 150 สาขา ปีที่แล้วรายได้จากกลุ่มนี้ประมาณ 10 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 100 ล้านบาท และอีก 5 ปีสัดส่วน 10% จากรายได้รวม
ส่วนธุรกิจดีลิเวอรีมีสัดส่วน 2% แต่คาดว่าอีก 3 ปีสัดส่วนรายได้เป็น 5% ซึ่งจะโตตามเทรนด์การบริโภค และการขยายสาขาที่มากขึ้นของบริษัทฯ ซึ่งการทำดีลิเวอรีนี้ผ่านช่องทางออนไลน์ภายใต้ความร่วมมือกับฟู้ดแพนด้า และการจัดเลี้ยงนอกสถานที่เพื่อเพิ่มช่องทางในการขยายตลาด