xs
xsm
sm
md
lg

“สาว BNK48-ออเจ้า” ฟีเวอร์ออกฤทธิ์ สินค้าดึงพรีเซ็นเตอร์-ดันโฆษณาคึก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - “BNK48-ออเจ้าบุพเพสันนิวาส” ฟีเวอร์หนัก สินค้าแห่ดึงเกิร์ลกรุ๊ปเป็นพรีเซ็นเตอร์เพียบ ส่วน “ออเจ้า” พร้อมปลุกกระแสโฆษณาคึกคักช่วงละคร

วินาทีนี้คงไม่มีใครปฏิเสธถึงความแรงของกระแสออเจ้าจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส กับเกิร์ลกรุ๊ป BNK48 ฟีเวอร์ แน่นอน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกิร์ลกรุ๊ป BNK48 ที่บรรดาสินค้าและบริการเสือปืนไวต่างก็ช่วงชิงใช้เป็นพรีเซ็นเตอร์ รวมทั้งกิจกรรมให้กับสินค้าตัวเองเป็นทิวแถว ไม่ว่าจะเป็น ค่ายทรูมูฟที่เรียกได้ว่าเป็นแบรนรด์แรกๆ ก็ว่าได้ที่ดึง BNK48 ไปร่วมงาน ยังมีร้านลอว์สัน108 กล้องฟูจิ ร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ ทีมฟุตบอลช้างศึกของไทยที่นำ BNK48 มาร่วมจำหน่ายของที่ระลึกกองเชียร์ทีมชาติไทย หรือแม้แต่สินค้าหลายแบรนด์ก็นำ BNK48 มาร่วมงานเปิดตัวสินค้าใหม่มากมาย รวมทั้งเจเล่บิวตี้ที่ทำเป็นคลิปจนเป็นที่ฮือฮามาแล้ว

นายฐากร ชัยสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ-ฝ่ายธุรกิจ บริษัท ศรีนานาพร มาเก็ตติ้ง จำกัด หรือ เอสเอ็นเอ็นพี (SNNP) ผู้ผลิต "เจเล่บิวตี้" กล่าวว่า กระแสของโซเชียลคลิป "เจเล่-BNK48" เป็นผลดีอย่างมาก เป็นคลิปที่สร้างแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นมีพลังในการทำชีวิตให้ดี โดยมี "BNK 48" เป็นฮีโร่ผู้ให้กำลังใจ เปลี่ยนทัศนคติสร้างมุมมองใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สวยสดงดงาม ซึ่ง BNK48 คือหนึ่งตัวอย่างของความสำเร็จที่สร้างแรงบันดาลใจได้สูงสุดในขณะนี้ ความแรงทำให้สินค้าขาดตลาดในบางพื้นที่ ขณะนี้ทางบริษัทได้เร่งกำลังการผลิตขึ้น 50% ปรับกลยุทธ์การกระจายสินค้าเพิ่มการเข้าถึงพื้นที่ที่มีความต้องการมากขึ้น

ขณะที่ละคร บุพเพสันนิวาส ที่คนติดกันทั่วบ้านทั่วเมืองยามนี้ ถือเป็นการปลุกให้สินค้าหันมาลงโฆษณาช่วงละครมากขึ้น

นายภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์ จำกัด หรือ เอ็มไอ ประเมินว่า จากกระแสความแรงของ บุพเพสันนิวาส กับ BNK48 คงเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันเม็ดเงินโฆษณารวมปีนี้โตได้ 6-8% จากเดิมปีที่แล้วตลาดรวมโฆษณาติดลบถึง 14% สูงสุดในรอบ 10 ปี เหลือเพียง 90,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น ซึ่งหากกระแสของ BNK48 ยังแรงต่อเนื่องถึงครึ่งปีหลัง รวมทั้งกระแสละครของบุพเพสันนิวาสยังแรงต่ออีก คงเป็นสัญญาณที่ดีที่เม็ดเงินโฆษณาจะกลับมาโตขึ้นอีกครั้ง

ทั้งนี้ สื่อที่จะมารองรับเม็ดเงินก็ยังคงเป็นสื่อหลักอย่างสื่อทีวี สื่อที่ยังคงมีการใช้โฆษณามากสุดในแง่จำนวนเงิน สัดส่วน 55% อันดับ 2 คือ สื่อนอกบ้าน สัดส่วน 15-20% แต่ที่ผ่านมาทั้งสองสื่อนี้ไม่เติบโตเลย ขณะที่สื่อออนไลน์ สัดส่วน 15% เป็นสื่อที่เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่สื่อที่งบโฆษณาตกลงต่อเนื่องคือ สื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งนิตยสารและหนังสือพิมพ์
ส่วนทางด้านอีเวนต์และโปรโมชันก็เริ่มกลับมาคึกคัก และที่เห็นชัดเจนที่สุดและแข่งขันรุนแรง คือ มือถือ ที่วันนี้ติดท็อปเท็นของกลุ่มสินค้าที่ใช้งบโฆษณาสูงที่สุดไปแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น