xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” ติดเครื่องดัน “มหานครผลไม้โลก” ลุยปั้นทุเรียน-มังคุดเกรดพรีเมียมขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สนธิรัตน์” ลุยปั้น “มหานครผลไม้โลก” ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดผลไม้ไทยในตลาดโลกเป็น 30% จาก 24.5% หรือเพิ่มมูลค่าอีก 1.95 หมื่นล้าน เริ่มสตาร์ทการทำงาน เม.ย.นี้ เผยมีแผนอัปเกรดทุเรียน มังคุด ลำไยขึ้นชั้นพรีเมียมส่งขาย สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลไม้เกรดรอง แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เผยปีนี้บุฟเฟต์ทุเรียนกินไม่อั้นมาแน่ ระบุยังมีแผนช่วยบูมแหล่งผลิตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อน “มหานครผลไม้โลก” ว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะเริ่มขับเคลื่อนการดำเนินการตามเป้าหมายตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูผลไม้ของไทย โดยได้ตั้งเป้าที่จะผลักดันให้ส่วนแบ่งตลาดผลไม้เมืองร้อนของไทยในตลาดโลกเพิ่มจาก 24.5% เป็น 30% และเพิ่มมูลค่าการส่งออกอีก 1.95 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปี จากปัจจุบันที่มีมูลค่าประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท

สำหรับแผนการผลักดันผลไม้เมืองร้อนของไทย จะเน้นการผลิตและทำตลาดผลไม้คุณภาพหรือเกรดพรีเมียมมากขึ้น โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และลำไย ที่จะต้องผ่านการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน GAP ของกรมวิชาการเกษตร และมาตรฐานสินค้า Q ของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) และต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังสวนที่ปลูก มีการรับรองคุณภาพ เปลี่ยนคืนได้หากเน่าเสีย เป็นต้น

นอกจากนี้ จะทำตลาดผลไม้เกรดรอง เช่น ทุเรียน หากมีรูปทรงภายนอกไม่สวย ลูกเล็ก แต่เนื้อข้างในดี ก็จะแยกเนื้อออกมาแล้วส่งไปจำหน่าย หรือมังคุด ถ้าลูกเล็ก ก็จะใช้จุดขายใหม่เป็นผลไม้ที่บริโภคได้ทั้งลูก ไม่มีเมล็ด เป็นต้น และยังมีแผนที่จะส่งเสริมให้มีการนำผลไม้ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น ซุปลำไย ซุปทุเรียน เป็นต้น ซึ่งเป็นที่นิยมมากในตลาดจีน

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ในการหาตลาดให้กับผลไม้ ตลาดภายในประเทศจะเพิ่มการกระจายผลไม้ผ่านการตลาดทุกรูปแบบ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ, ตลาดต้องชม, ตลาดเฉพาะสินค้า (Magnet Market), ศูนย์จำหน่ายสินค้า Farm Outlet, การซื้อขายผลไม้ล่วงหน้าผ่านตลาดข้อตกลงระหว่างเกษตรกรกับผู้ประกอบการโรงงานแปรรูป และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ส่วนต่างประเทศ จะผลักดันการขยายตลาดในประเทศเป้าหมายเดิม เช่น จีน อินโดนีเซีย และเจาะตลาดใหม่ เช่น อินเดีย ยุโรป เป็นต้น และมีแผนขยายตลาดในประเทศผู้นำเข้ารองเพิ่มเติม เช่น ไต้หวัน อิหร่าน เกาหลีใต้ แคนาดา แอฟริกาใต้ มัลดีฟส์ รวมทั้งตลาดชายแดนที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน

“ในปีนี้กระทรวงฯ จะจัดบุฟเฟต์ผลไม้แน่นอน โดยเฉพาะทุเรียน มีแผนที่จะจัดกิจกรรมในจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิต และจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น เชียงใหม่ และชลบุรี รวมถึงจังหวัดอื่นๆ เพื่อโปรโมตทุเรียนไทย และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาบริโภค ซึ่งอยากจะจัดให้เป็นงานประจำทุกปี แบบว่าพอถึงเวลาทุกคนก็จะรู้ว่าจะไปบริโภคบุฟเฟต์ทุเรียนได้ที่ไหน” นายสนธิรัตน์กล่าว

ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ยังมีแผนที่จะโปรโมตและกระตุ้นการบริโภคผลไม้ไทย โดยจะผลักดันให้แหล่งผลิตผลไม้สำคัญๆ ของไทย ทั้งในภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคใต้ เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม และบริโภคผลไม้ถึงในสวน และซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ชาวสวนผลไม้ได้อีกทางหนึ่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น