ผู้จัดการรายวัน 360 - “อสมท” รายงานงบการเงินปี 60 แจ้งด้อยค่าสินทรัพย์ 2 ใบอนุญาตทีวีดิจิตอล อุปกรณ์โครงข่ายและสิ่งอำนวยความสะดวก ส่งผลให้งบการเงินขาดทุนสูง แต่ต้นทุนการดำเนินงานจริงลดลง 8% คาดว่าปี 61 ผลประกอบการเริ่มฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อสมท รายงานงบการเงินปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,736 ล้านบาท ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมแจ้งบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ใบอนุญาตโทรทัศน์ดิจิตอล อุปกรณ์โครงข่าย และสิ่งอำนวยความสะดวก
สาเหตุของการขาดทุนเกิดจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจซึ่งมีผลกระทบต่อธุรกิจทีวีดิจิตอลอย่างกว้างขวาง ประกอบกับต้องแบกรับภาระจากการจ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอลทั้งสองช่อง คือ ช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 และ MCOT Family ช่อง 14 ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้ตัวเลขขาดทุนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับที่ผ่านมานั้น เกิดจากการทำตามมาตรฐานการบัญชีเรื่องการพิจารณาการด้อยค่าของใบอนุญาตทีวีดิจิตอลของทั้งสองช่อง อุปกรณ์โครงข่าย และสิ่งอำนวยความสะดวก จำนวน 2,087 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนรายได้และค่าใช้จ่ายไม่สัมพันธ์กัน ส่งผลให้ อสมท มีผลขาดทุนสุทธิ 2,543 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนเพิ่มขึ้น 236% จากปี 2559
แต่หากพิจารณาการดำเนินงานปกติที่ไม่มีค่าใช้จ่ายด้อยค่า อสมท จะมีผลขาดทุนก่อนภาษีจำนวน 726 ล้านบาท ซึ่งถือว่าการดำเนินงานมีประสิทธิภาพดีขึ้นจากปีก่อน 17% เพราะมีการควบคุมและบริหารค่าใช้จ่ายดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการด้อยค่าฯ ดังกล่าว ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินที่ต้องจ่ายออกไปจริง แต่เป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชีเพื่อให้สะท้อนมูลค่าของทรัพย์สินที่แท้จริง โดยครอบคลุมการคาดการณ์ด้านรายได้ ค่าใช้จ่าย อัตราการเจริญเติบโต และประมาณการกระแสเงินสดในอนาคตที่สะท้อนผลการดำเนินงานภายใต้สถานการณ์การแข่งขันธุรกิจทีวีดิจิตอลในปัจจุบัน ซึ่งจะมีการทบทวนปัจจัยและข้อบ่งชี้ต่างๆ ทุกปี และมองว่าผู้ประกอบธุรกิจทีวีดิจิตอลที่ประสบปัญหาขาดทุนรายอื่นๆ ก็จะพิจารณาบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์เช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นข้อสังเกตของผู้สอบบัญชี
“สำหรับแผนงานในปี 2561 ทางบริษัทฯ จะมุ่งเน้นนโยบายการบริหารสินทรัพย์ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ด้วยการเร่งรัดสร้างมูลค่าเพิ่มจากที่ดินที่มีอยู่ทั้ง 3 แปลง โดยเฉพาะที่ดินย่านรัชดาเนื้อที่กว่า 50 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อได้และแสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตรในด้านต่างๆ ตลอดจนเพิ่ม content ที่แปลกใหม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน สำหรับในเดือนเมษายนนี้ MCOT HD ช่อง 30 จะมีการเสริมรายการใหม่ ทั้ง prime time และ non-prime time อีก 3-4 รายการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมมากขึ้น รวมทั้งวิทยุที่จะเร่งขยายนำ content ลงใน digital platform เพื่อขยายฐานผู้ฟังคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น ควบคู่กับการบริหารต้นทุนด้านการบริหารจัดการและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายเขมทัตต์กล่าว
ผลการดำเนินงานของ อสมท ในปี 2560 มีโครงสร้างรายได้จากธุรกิจต่างๆ ได้แก่ ธุรกิจโทรทัศน์ มีรายได้ 37% เป็นเงิน 1,002 ล้านบาท ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ธุรกิจวิทยุ มีรายได้ 27% เป็นเงิน 747 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7% แต่สูงกว่าภาพรวมของตลาดวิทยุที่ลดลงถึง 15% โดยเริ่มมีรายได้จากคลื่น Mellow FM 97.5 MHz ในเดือนกรกฎาคม หลังจากยุติออกอากาศคลื่น Seed MCOT ตั้งแต่ต้นปี 2560 สำหรับคลื่นวิทยุที่มีผลงานโดดเด่น มีรายได้สูงสุด ในปี 2560 ได้แก่ คลื่นลูกทุ่งมหานคร FM 95 MHz, คลื่นความคิด FM 96.5 MHz, FM 100.5 MHz News Network ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาและต่อยอดธุรกิจด้วยการผลิตเนื้อหารายการ (content) ใหม่ๆ โดยใช้จุดแข็งของผู้ดำเนินรายการทางวิทยุนำมาออกอากาศทางสื่อโซเชียล เช่น รายการ Talk Together ที่สามารถติดตามได้ทางเฟซบุ๊ก แฟนเพจ MCOT Radio Network เพื่อเพิ่มการเข้าถึงของผู้ฟังในทุกกลุ่มอายุ
ธุรกิจร่วมดำเนินกิจการ (สัมปทาน) 19% เป็นเงิน 459 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9% เนื่องจากมีการบันทึกทรัพย์สินเครื่องส่งสัมปทานเพิ่มจาก บมจ.ทรูวิชั่นส์
ธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (BNO) 13% เป็นเงิน 362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% จากปี 2559 ส่วนหนึ่งเป็นการได้รับเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปผ่านสัญญาณดาวเทียมจาก กสทช รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าบริการสิ่งอำนวยความสะดวก ปัจจุบันโครงข่ายฯ ของ บมจ.อสมท ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 95% ของครัวเรือนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามกรอบระยะเวลาของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธุรกิจสื่อใหม่ (สื่อออนไลน์ต่างๆ ของ อสมท และโทรทัศน์ดาวเทียม MCOT Satellite Network) 2% เป็นเงิน 58.6 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 2%