“หนิง ปณิตา” พร้อมทนายและผู้เสียหาย ตั้งโต๊ะแถลงกรณีถูกค่ายเพลงลูกทุ่งฟ้องหมิ่นประมาท “เสือ นวพล” แฉสะเทือนคู่กรณีเรียกเงิน 5 หมื่น จะฝากเข้าเล่นละคร แถมเรียกร้องอีก 2 หมื่น จะฝากเข้าทำงานข้าราชการ บอกถ้าอยากดังก็ต้องยอมเสียตัวด้วย ซัดอีกฝ่ายโทรศัพท์มาข่มขู่จะเอาเรื่อง อ้างรู้จักนักการเมือง ทนายฮึ่มถ้าฟ้องกลับ รับประกันหลักฐานแน่นเวอร์
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 พ.ค. นักแสดงและผู้จัดสาว “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” พร้อมด้วย “อ.ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช” ทนายความ และ เสือ นวพล ข้อยุ่น, อ้อม พัชราภรณ์ พันธุรัตน์, บี ธยานันทน์ พุทธา, นิสนึง อรรัสมิดา โรจนเตชสิริ ผู้เสียหาย และ ยุ้ย ชณุตพร ปราระกานนท์ อดีตประชาสัมพันธ์ฟรีแลนซ์ ค่ายบ้านไทยลูกทุ่ง ได้จัดแถลงข่าวกรณีที่ค่ายบ้านไทยลูกทุ่ง แจ้งความฟ้องหนิงในข้อหาหมิ่นประมาท จากการที่หนิงไลฟ์สดแล้วพาดพิงอีกฝ่าย โดยหนิงจัดหนักเปิดคลิปเสียงสนทนาการระหว่างตนและคู่กรณี รวมทั้งคลิปเสียงน้องเสือ และคู่กรณีให้สื่อมวลชนได้ฟัง ก่อนยืนยันว่า สิ่งที่ทำแค่อยากให้เป็นอุทาหรณ์ เตือนประชาชนที่อยากเข้าวงการเท่านั้น ซึ่ง “เสือ” ผู้เสียหายได้แฉแซ่บอีกชุดใหญ่ว่าอีกฝ่ายเรียกร้องเงินยังไม่พอ ยังบอกว่าตนต้องเสียตัวอีก
เสือ : “ที่เข้ามาเริ่มแรกผมทำงานเครือข่ายขายตรง แล้วก็มีโอกาสมาช่วยดาวน์ไลน์ที่กรุงเทพฯ มาเป็นทีมสตาฟฟ์ช่วยแม่ใหม่เขาจัดเวทีลูกทุ่ง ก็ปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่ใหม่ก็บอกว่าด้วยรูปร่าง บุคลิกภาพเบื้องต้นของเรา สามารถเป็นศิลปินได้ เราก็ร้องเพลงได้ เป็นพิธีกรบ้าง เขาก็บอกโอเคดีเลย แม่รู้จักคนหนึ่งคน สามารถพาเข้าวงการได้ เป็นเจ้าของค่ายเพลงบ้านไทยลูกทุ่ง ผมก็ไม่สนใจ เพราะจุดประสงค์เราแค่มาจะหาดาวน์ไลน์ ไม่ได้อยากมาเป็นนักแสดง”
“แต่พอเขามา เขาก็เล่าให้เราฟังว่า สามารถผลิตศิลปิน พาเข้าวงการได้ โดยการที่เอาผลงานของเขามาเปิดให้เราดู แล้วก็ถามว่าสนใจบ้างมั้ย เราก็บอกเฉยๆ ครับ เขาพยายามจะคุยกับเราหลายๆ เรื่อง ให้รู้สึกว่าเราอยากจะเข้าวงการ โดยการบอกว่าจะมีละครของช่อง 3 นะ ให้เราส่งโปรไฟล์เรามา เราก็ยังเฉยๆ พอวันที่ 2 ก็มาคุยกับพี่ที่พาผมมาช่วยงาน บอกว่าทำไมน้องเขาไม่อยากเข้าวงการเหรอ เราก็สงสัยว่าการเข้าวงการเจอกันวันเดียว วันที่สองเข้าวงการได้เลยเหรอ เราก็เอะใจว่ามันไม่น่าจะใช่มั้ง เราก็ถือใจซื่อคุยไปเรื่อยๆ ครับ แล้วเขาก็พาเราไปร่วมงานครับ”
“ก่อนที่จะร่วมงาน เขาพาผมไปเทสต์เสียงก่อน พาผมไปร้านคาราโอเกะให้ร้องเพลง แล้วก็บอกว่าร้องเพลงยังไม่โอเคนะ แต่เราก็สามารถทำอย่างอื่นได้ แสดงละครไง มีละครเยอะแยะ พี่รู้จักคนเยอะแยะ เขาก็เรียกผมมาคุยสองต่อสอง ว่าพี่เคยทำงานกับคนนี้ๆ นะ ปั้นคนนี้มาดังแล้ว พี่รู้จักหมด เราก็ครับๆ เกิดความน่าเชื่อถือเบื้องต้น”
“งานแรกที่ผมไป คือ งานนิตยสารแอดติจูดครับ ผมไปกับเด็กในค่ายเป็นน้องหนึ่งคน แล้วก็มีศิลปินหนึ่งคน ก็ไปร่วมงานพาผมไปรู้จักคนนั้นคนนี้ สร้างความน่าเชื่อถือให้ผมว่ารู้สึกเป็นเกียรตินะ จากผมเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง อยู่ๆ เราได้ไปร่วมงาน ก็ตื่นเต้น พอเสร็จเขาก็กลับมาคุยกับเราว่าพี่คนจริงนะ พี่ตัวจริง พี่รู้จักคนนั้นคนนี้ พองานที่สอง เป็นงานมอบถ้วยรางวัลของ สสส. ที่ศูนย์วิจัย ให้ผมไปเชิญถ้วย ก็มีศิลปินในค่ายไปเชิญถ้วย เราก็ภูมิใจว่าเราก็ได้มาร่วมงานก็ดีเหมือนกัน เขาก็บอกกับเราว่าเรื่องงานเป็นยังไง ให้เราทำงานนี้ไปก่อนนะ พอถึงจุดๆ หนึ่งค่อยสร้างโปรไฟล์ขึ้นมาเรื่อยๆ งานที่สามที่ร่วมงานเป็นงานลูกทุ่งมหานครอวอร์ด ได้ไปเดินพรมแดงครับ ก็บอกกับเราเสมอว่าเขาเป็นคนจริง เป็นนักการเมือง เป็นคนที่พาเราไปรู้จักคนเยอะแยะ”
“หลังจากวันนั้นกลับมาที่ห้อง เด็กในค่ายก็กลับบ้านกันหมด ผมก็อยู่กับเขาที่ห้อง เขาก็พยายามคุยเสียงดังๆ ในห้อง ผมก็ไม่สนใจ เขาก็ถามว่าทำไมไม่สนใจ ไม่อยากรู้เหรอคุยอะไร ไม่อยากรู้เหรอทำอะไรอยู่ ผมก็บอกเรื่องของพี่ไง ผมก็ไม่สนใจ เขาก็บอกว่าเสือต้องการอะไร ต้องการทำงานอะไร พูดให้พี่ฟังสิว่าเสืออยากได้อะไร ผมก็บอกว่าอะไรก็ได้ครับที่ได้เงิน ผมก็ทำ จุดประสงค์แรกผมมาหาดาวน์ไลน์มาขยายเครือข่ายตัวเอง แต่พอมีโอกาสให้เรามาแสดงตรงนี้ ได้เข้าไปร่วมงาน ค่อยๆ ทำงานไปมีคนรู้จักเรา เราก็ค่อยไปสานต่อธุรกิจของเราเหมือนเดิม ผมตั้งใจแค่นี้ แล้วเขาก็บอกว่าเสือต้องการเป็นนักแสดงมั้ย พี่รู้จักกับ หนิง ปณิตา รู้จักสนิทเลย โทร. กริ๊งเดียวรู้เรื่อง พี่นีโน่ เมทนี รู้จักเลย ผมก็ครับปกติ แต่หลังจากคืนนั้นตื่นเช้ามา น่าจะเป็นเช้าวันที่โอนเงินครับ ประมาณ 27 มี.ค. เขาก็บอกว่าเสือมีละครเข้านะของพี่หนิง เขาต้องการหานักแสดง เขาก็เอาคู่สัญญามาให้ผมอ่าน แล้วก็คุยกับผมต่อหน้าว่าเป็นแบบนี้ๆ นะ”
บอกยิ่งเห็นสัญญาบริษัทนีโน่ ก็คิดว่าไม่หลอกกันชัวร์ จนยอมหาเงินมาจ่าย 5 หมื่น
เสือ : “แล้วที่ทำให้ผมเชื่อใจประเด็นแรกก็คือ เป็นคู่สัญญาที่มีหัวว่านีโน่ บราเดอร์ส ชัดเจน มีการเขียนสัญญาชัดเจนว่าอ้างจากบุคคลที่หนึ่ง ว่าจ้างคนนี้ จำนวนนี้ แล้วที่สำคัญหน้าหลังเป็นลายเซ็นจริงๆ แบบลงปากกา ผมก็โอ้นี่ของจริงนะเนี่ย ประกอบกับเราไปร่วมงานมาแล้ว 3 งาน เราได้เห็นคู่สัญญาตัวจริง มันก็เกิดความน่าเชื่อถือว่าเขารู้จักพี่หนิงจริงๆ แต่ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นที่ผมรู้สึกว่าผมต้องจ่ายตังค์ เขาบอกว่าละครนี้มันต้องเสีย 5 หมื่น มาจากการเก็บ 10 เปอร์เซ็นต์ จากค่ายละคร”
หนิง : “ในคู่สัญญาเป็นคุณแคทรียา มารศรี ค่ะ คือ จริงๆ ต้องบอกว่าในคู่สัญญานั้นเป็นสัญญาที่เกิดขึ้นจริง ทำจริงระหว่างบริษัท นีโน่ บราเดอร์ส กับบริษัทคู่กรณีหนิง ทำสัญญาด้วยกันที่รับเงินจากบริษัท นีโน่ บราเดอร์ส ในเรื่องการเล่นละครเพลงผีบอก ซึ่งหนิงเช็กแล้วว่าเป็นของจริงค่ะ”
เสือ : “เงินจำนวนนั้นก็มากโขครับ ประมาณ 5 แสนครับ แล้วก็บทละครตอนละหมื่นห้า เขาก็เอาข้อมูลให้ผมฟัง แล้วก็บอกว่า 10 เปอร์เซ็นต์มาจาก 5 แสนนั่นแหละ แต่พี่ขอคุยกับพี่หนิงก่อน แล้วผมก็นั่งอยู่บนโต๊ะ เขาอยู่โซฟา เขาก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาทำเป็นคุยกับพี่หนิงว่าละครที่บอกว่าให้ไปเล่นเนี่ยยังไงบ้าง 5 หมื่นใช่มั้ย แล้วก็คุยกับผมว่าเสือมัน 5 หมื่นนะ แต่แป๊บหนึ่งนะเดี๋ยวพี่ขอคุยกับพี่หนิงใหม่ พี่หนิงสามารถลดราคาได้มั้ย เหลือสัก 3 หมื่น ผมก็ด้วยความที่แบบต้องเสียเงินเหรอ แต่มันได้เล่นละครจริงๆ นะ ผมก็เตรียมหาเงินยืมมาให้ได้ 3 หมื่น แล้วเขาก็มาบอกว่าเสือ ไม่ได้นะ พี่คุยแล้วต้อง 5 หมื่นเหมือนเดิม ถ้าไม่เอามีคนอยากเล่นเยอะแยะ ผมก็หาเงินมาจนครบ 5 หมื่น”
“ผมก็ถามว่าจากวันนั้นพี่ต้องโอนกี่โมง เขาก็บอกโอนเข้าบัญชีพี่เดี๋ยวพี่โอนไปให้บุคคลที่สามเอง เราก็โอเคเราได้ทำงาน ก็ดีใจมีงานทำ ประเด็นต่อจากตรงนี้คือ หลังจากวันนั้นเขามีการประชุมกันในค่ายเพลง มีศิลปินประมาณ 2 - 3 ท่าน เขาก็บอกอยากให้เด็กในค่ายมีความกระตือรือร้นในการทำงาน ไม่อยากให้เด็กในค่ายเบื่อหน่าย แล้วเขาก็บอกให้ผมพูดความในใจว่าที่ยอมจ่ายเงิน 5 หมื่นเพื่อได้บทละครนี้ โอกาสวิ่งมาเราต้องคว้าเอาไว้ พอหลังจากนั้น ผมก็กลับขอนแก่น ด้วยความที่ผมกับน้องมันแครงใจกัน เราก็เลยถ้าน้องไม่อยากต่อสัญญาก็ไม่ต้องต่อ เอาที่สบายใจ น้องก็ฉุกถามเราขึ้นมาว่าพี่เสือเงิน 5 หมื่นคืออะไร มันมีด้วยเหรอพี่ มันไม่มีหรอกที่เข้าวงการแล้วต้องจ่าย 5 หมื่น”
หนิง : “ก็คือพอเสร็จแล้ว ทางคุณยุ้ยที่รู้จักกับทางคุณนีโน่ ก็เลยติดต่อมาถามกับทางบริษัทว่าจริงหรือเปล่าที่ต้องจ่ายเงิน 5 หมื่นบาท มันก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่เราฟังกันในคลิปเมื่อสักครู่นี้ คือเราเองก็ตกใจเพราะเสือจ่ายไปวันที่ 27 มี.ค. แต่หนิงทราบเรื่องวันที่ 3 เม.ย. ตอนเย็น เลยบอกให้คุณยุ้ยติดต่อน้องเสือเข้ามาที่ออฟฟิศ วันที่ 4 เม.ย. สิ่งที่เราจะทำคือลงบันทึกประจำวันและแจ้งความ แต่เรายังไม่มีหลักฐาน เลยโทรศัพท์ไปคุยตามในคลิปเมื่อสักครู่ ตอนนั้นหนิงกับเสืออยู่ด้วยกัน”
ทนายเผย หนิงไลฟ์สดไม่ได้พูดเรื่องที่เป็นเท็จ พูดเพื่อปกป้องสิทธิ์ตัวเอง และจำเป็นต้องดึงตัวผู้เสียหายออกมาพูดความจริงให้สังคมได้รับรู้
อ.ประมาณ : “คือเป็นพยานหลักฐานเบื้องต้น เรื่องเสียงในทางกฎหมายก็พอรับฟังได้ และมีพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ และจากที่ผมดูจากบันทึกแจ้งความของฝั่งนั้น เขาแจ้งความคดีหลอกลวง คือฉ้อโกงเอาทรัพย์สิน ซึ่งการหลอกลวงแบบนี้มันทำให้คนที่ถูกอ้างเสียหายนะ ถ้ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมันก็เสียหายต่อวงการ คนจะเข้าสู่วงการนี้ต้องมาเสียเงิน 5 หมื่น หรือหนึ่งแสน เพื่อแสดงละคร มันผิดปกติ ส่วนทางหนิงไปแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง ว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกระทบกระเทือนต่อสถานภาพของตัวเองในฐานะบริษัทผู้ผลิตละคร”
“แต่มันเกิดเรื่องเพราะไลฟ์สดทางแฟนเพจ ผมเองตรวจสอบในไลฟ์เพจก็ไม่มีเรื่องไหนที่เป็นเท็จ ตามกฏหมายใครที่ส่งข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ ถ้าเป็นข้อความเท็จและทำให้ประชาชนเสียหาย นี้คือความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ส่วนเรื่องหมิ่นประมาท ผมก็มาดูว่าสรุปเป็นการใส่ความต่อบุคคลที่สามให้เสียชื่อเสียงมั้ย ซึ่งที่หนิงพูดมันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และตัวเองถูกกล่าวถึง เลยเป็นการพูดเพื่อปกป้องสิทธิของตัวเอง ซึ่งเป็นความจำเป็นที่หนิงจะพาเสือออกมาพูดความจริงให้สังคมรับรู้ แต่ถ้าถ้อยคำบางคำเป็นหมิ่นประมาท และถ้าพิสูจน์ได้ว่าเรื่องที่พูดนั้นจริง เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ผู้กระทำก็ไม่ต้องรับโทษ”
แฉซ้ำอยากดังไม่เสียเงินก็ต้องยอมเสียตัว อยากดังก็ต้องยอมให้เจ้าของค่าย “ดัน” ด้วย
เสือ : “มันมีคำพูดหนึ่งที่เขาพูดกับผม ซึ่งคำพูดนี้เขาจะย้ำพูดกับทุกคนในค่าย เข้าวงการนี้มีอยู่ 2 อย่างที่ต้องทำ ไม่เสียเงิน ก็ต้องเสียตัว และถ้าคุณอยากจะเด่นดัง คุณต้องยอมเป็นของเจ้าของค่าย และเขาจะผลักดันให้คุณไปได้”
อ.ประมาณ : “ต้องพิจารณาอีกที เนื่องจากการที่บอกว่าพี่หนิงเรียก 5 หมื่น เดี๋ยวผมต่อเหลือ 3 หมื่น แต่พี่นีโน่ไม่ยอม อย่างตรงนี้คือมันไม่ใช่เรื่องจริง คนที่ถูกพูดถึงก็เสียหาย และมีพูดต่อบุคคลที่สาม คือเราต้องพิจารณาเนื้อหาที่เขาแจ้งความจริงๆ ก่อนว่าอะไร และถ้าทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริงก็อยู่ที่เราว่าจะดำเนินคดีกับเขาหรือไม่”
หนิง : “หลังเป็นข่าวไม่ได้คุยอะไรกันเลย หรือ โทร.มาหรือเปล่าเราก็ไม่ทราบ เพราะช่วงนี้ใคร โทร.มาเราก็แทบไม่ค่อยรับ และเราไม่ได้บันทึกเบอร์เขาไว้ คือเรายุ่งอยู่กับห้องตัด แต่หลังจากนี้ถ้าโทร.มาขอไกล่เกลี่ย เราก็ให้คุยกับทางทนายค่ะ”
เสือ : “จริงๆ ผมพูดไม่หมด ที่ผมไม่อยากพูดถึงเพราะมันเสียหายทั้งสองฝ่าย แต่มันมีเรื่องเงินเพิ่มอีก 2 หมื่น เขาขอเพิ่มแล้วบอกว่าสามารถฝากเป็นข้าราชการได้ เราก็จ่ายไปให้เขาแล้ว และเขาก็โอนกลับคืนมาแล้วทั้งหมด คือ 5 หมื่นแรก และเพิ่มอีก 2 หมื่นเป็น 7 หมื่น แต่ตอนนี้คืนครบหมดแล้ว และมีการขอนอนด้วย แต่ผมไม่ยอม เลยยอมจ่ายเงินแทน ซึ่งจะมีคำพูดหนึ่งที่เขาชอบพูดว่าวงนี้ถ้าไม่เสียตัว ก็ต้องเสียเงิน เขาบอกว่ามันมีเส้นด้ายบางๆ ขวางไว้อยู่ ถ้าคุณยอมข้ามมาในรูปแบบของผม ถ้าผมคบในรูปแบบเด็กก็คือคบแล้วจบไป แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ จะดูแลให้ถึงฝากฝั่ง ผมเลยบอกพี่ผมเป็นผู้ชายผมทำให้ไม่ได้หรอก”
ลั่นอีกฝ่ายโมโหร้ายเคยทำร้ายด้วยการบีบคอ ขู่รู้จักนักการเมืองจะเอาเรื่องที่ทำให้เสียหาย
บี : “คอนโดเขาเด็กในค่ายทุกคนต้องไปอยู่ทั้งหมด มี 2 ห้อง ผู้ชายต้องนอนห้องเขา ผู้หญิงนอนอีกห้องหนึ่ง เขาเป็นคนโมโหร้ายผมเคยโดนเขาบีบคอ แล้วก็โดนเหวี่ยง เหตุการณ์วันนั้นผมขอกลับบ้านวันเกิดแม่ ช่วงนั่นก็ไม่มีงาน เดี๋ยวจะกลับมาเลยมีปากเสียงกัน หลังจากนั้นผมก็ออกมาจากสังกัดเขา แล้วก็ไปแจ้งความเรื่องทำร้ายร่างกายครับ”
เสือ : “พอเป็นข่าวเขาโทร.มาหาครอบครัวผมและหลังจากเกิดเรื่อง เป็นข่าวขึ้นมา เขาก็มีการข่มขู่ว่าเขารู้จักนักการเมืองเยอะ ขู่จะเอาเรื่องที่ทำให้เสียหาย และบอกจะเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เขาเสียไป หลังจากนั้นผมก็ไม่รับอีกเลยครับ”
มั่นใจถ้าฟ้องกลับ หลักฐานแน่นเวอร์
อ.ประมาณ : “เรื่องที่เกิดขึ้น คืออีกฝ่ายแจ้งความกลับเพราะไลฟ์สดของคุณหนิง ยันไม่มีอะไรที่หนิงพูดไม่เป็นความจริง ส่วนเรื่องหมิ่นประมาท เรื่องฟ้องกลับมั้ยต้องรอพิจารณาอีกที รอรวบรวมข้อมูลอีกที เพราะหลังจากเกิดเรื่องยังไม่มีการโทร.มา ถ้าโทร.มีการโทร.มาไกล่เกลี่ย มั่นใจหลักฐานแน่นพอ เพราะมีพร้อมทั้งพยานบุคคล แล้วไลน์สนทนา เพราะหลายคนเข้าใจผิดว่าคุณหนิงไปใส่ความเขาในไลฟ์สด แต่ผมได้ดูไลฟ์แล้ว มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด”
หนิง : “จริงๆ สิ่งที่หนิงรู้สึก ไม่รู้ว่าในแง่ของกฎหมายมันคืออะไร แต่สิ่งที่หนิงรู้สึกว่าวันนี้เราเป็นผู้จัดละคร เราทำงานเติบโตมาทุกอย่างเพราะวงการบันเทิง หนิงเคยมีปมอยู่ที่เคยมีคนเอาชื่อหนิงไปแอบอ้างหลอกเงินคน ทุกวันนี้เขาก็ยังลอยนวลกันอยู่ วันนี้หนิงก็มาเจอเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก สิ่งที่อยากทำคือทำในส่วนของความรับผิดชอบที่ดาราคนหนึ่ง ควรจะมีต่อวงการบันเทิง อยากบอกให้ทุกคนรู้ว่าถ้าจะเข้าวงการบันเทิงอย่าโดนหลอกด้วยวิธีแบบนี้ เงิน 5 หมื่นสำหรับบางคนเขาใช้ได้เป็นปี มันเจ็บปวดกับคนที่เขาโดน หนิงแค่อยากเตือนไม่ได้มีเจตนาที่จะหมิ่นประมาท ดูหมิ่นใคร ถ้าวันนี้ในเรื่องของกฎหมายมันจะกลับมาทิ่มแทงทำร้ายหนิงเอง หนิงยินดีค่ะ”