ผู้จัดการรายวัน 360 - นายกโฆษณาฟันธงปีนี้อุตสาหกรรมโฆษณาจะกลับมาโต 4% ได้หากไม่มีปัจจัยลบอื่นเกิดอีก ด้านอุปนายกชี้สื่อทีวียังกินส่วนแบ่งมากที่สุด สื่ออินเทอร์เน็ตโตพุ่งสุด
นายไตรลุจน์ นวะมะรัตน์ นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมโฆษณาในไทยปี 2561 นี้คาดว่าภาพรวมจะกลับมาเติบโตได้ 4% ด้วยสาเหตุจากการที่สภาพโดยรวมของเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ธุรกิจส่งออกและการท่องเที่ยวขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับความเข้าใจของนักการตลาดที่เริ่มมีมากขึ้นต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคส่งผลดีต่อการวางแผนการตลาด หากไม่มีปัจจัยลบอื่นมากระทบต่อตลาดอีก
นายรัฐกร สืบสุข อุปนายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สื่อทีวีจะยังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนมากที่สุดและสร้างเม็ดเงินโฆษณาในภาพรวมมากที่สุดเหมือนเดิม แม้ว่าการเติบโตจะไม่ได้มากที่สุดก็ตาม กล่าวคือ โตแค่ 4% เท่านั้น แต่ก็มีการปรับราคาค่าโฆษณาเพิ่มอีก ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีการปรับราคาขึ้นโดยเฉลี่ย 4% มากกว่าค่าเฉลี่ยของการปรับราคาค่าโฆษณาของปี 2560 ที่อยู่ที่ 3.5% ขณะที่อัตราส่วนของจำนวนผู้ชมรายการผ่านหน้าจอทีวีจะลดลงเรื่อยๆ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีทางเลือกในการรับชมมากขึ้นในแพลตฟอร์มอื่นที่หลากหลายทางออนไลน์
สำหรับสื่อโฆษณาที่ประเมินว่าในปี 2561 นี้จะมีการเติบโตมากที่สุด คือ อินเทอร์เน็ต เติบโต 25% หรือมีมูลค่าประมาณ 14,722 ล้านบาท, สื่อโรงหนัง เติบโต 25% หรือมีมูลค่า 8,671 ล้านบาท, สื่อเคลื่อนที่ เติบโต 15% หรือมีมูลค่า 6,760 ล้านบาท, สื่อนอกอาคาร เติบโต 10% หรือมีมูลค่า 7,030 ล้านบาท และสื่อทีวีดิจิตอล เติบโต 5% หรือมีมูลค่า 66,017 ล้านบาท
ส่วนสื่อโฆษณาที่มีการเติบโตทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คือ สื่อในอาคาร มีมูลค่า 946 ล้านบาท ขณะที่สื่อที่คาดว่าจะติดลบต่อเนื่องจากปี 2560 คือ สื่อนิตยสาร ตกลงประมาณ 30% หรือมีมูลค่าลดลงเหลือ 1,499 ล้านบาท เช่นเดียวกับสื่อหนังสือพิมพ์ที่ตกลง 25% หรือมีมูลค่าลดลงเหลือ 8,502 ล้านบาท และสื่อเคเบิลทีวีและแซตเทลไลต์ทีวีติดลบ 15% หรือมีมูลค่าลดลงเหลือ 2,476 ล้านบาท และอีกสื่อคือสื่อวิทยุ ตกลง 15% หรือมีมูลค่าลดลงเหลือ 4,290 ล้านบาท
นายไตรลุจน์ นวะมะรัตน์ นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมโฆษณาในไทยปี 2561 นี้คาดว่าภาพรวมจะกลับมาเติบโตได้ 4% ด้วยสาเหตุจากการที่สภาพโดยรวมของเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ธุรกิจส่งออกและการท่องเที่ยวขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับความเข้าใจของนักการตลาดที่เริ่มมีมากขึ้นต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคส่งผลดีต่อการวางแผนการตลาด หากไม่มีปัจจัยลบอื่นมากระทบต่อตลาดอีก
นายรัฐกร สืบสุข อุปนายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สื่อทีวีจะยังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนมากที่สุดและสร้างเม็ดเงินโฆษณาในภาพรวมมากที่สุดเหมือนเดิม แม้ว่าการเติบโตจะไม่ได้มากที่สุดก็ตาม กล่าวคือ โตแค่ 4% เท่านั้น แต่ก็มีการปรับราคาค่าโฆษณาเพิ่มอีก ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีการปรับราคาขึ้นโดยเฉลี่ย 4% มากกว่าค่าเฉลี่ยของการปรับราคาค่าโฆษณาของปี 2560 ที่อยู่ที่ 3.5% ขณะที่อัตราส่วนของจำนวนผู้ชมรายการผ่านหน้าจอทีวีจะลดลงเรื่อยๆ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีทางเลือกในการรับชมมากขึ้นในแพลตฟอร์มอื่นที่หลากหลายทางออนไลน์
สำหรับสื่อโฆษณาที่ประเมินว่าในปี 2561 นี้จะมีการเติบโตมากที่สุด คือ อินเทอร์เน็ต เติบโต 25% หรือมีมูลค่าประมาณ 14,722 ล้านบาท, สื่อโรงหนัง เติบโต 25% หรือมีมูลค่า 8,671 ล้านบาท, สื่อเคลื่อนที่ เติบโต 15% หรือมีมูลค่า 6,760 ล้านบาท, สื่อนอกอาคาร เติบโต 10% หรือมีมูลค่า 7,030 ล้านบาท และสื่อทีวีดิจิตอล เติบโต 5% หรือมีมูลค่า 66,017 ล้านบาท
ส่วนสื่อโฆษณาที่มีการเติบโตทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คือ สื่อในอาคาร มีมูลค่า 946 ล้านบาท ขณะที่สื่อที่คาดว่าจะติดลบต่อเนื่องจากปี 2560 คือ สื่อนิตยสาร ตกลงประมาณ 30% หรือมีมูลค่าลดลงเหลือ 1,499 ล้านบาท เช่นเดียวกับสื่อหนังสือพิมพ์ที่ตกลง 25% หรือมีมูลค่าลดลงเหลือ 8,502 ล้านบาท และสื่อเคเบิลทีวีและแซตเทลไลต์ทีวีติดลบ 15% หรือมีมูลค่าลดลงเหลือ 2,476 ล้านบาท และอีกสื่อคือสื่อวิทยุ ตกลง 15% หรือมีมูลค่าลดลงเหลือ 4,290 ล้านบาท