ผู้จัดการรายวัน 360 - “JKN” ขาขึ้น ปรับราคาซีรีส์อินเดียอีก 50% ดันเป้ารายได้รวมปีนี้ปรับใหม่เติบโต 25% พร้อมลุยขยายลูกค้าทีวีดิจิตอลอีกหลายช่อง จ่อลุยแพลตฟอร์มวิดีโอ
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด หรือเจเคเอ็น/JKN ผู้ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ กล่าวว่า บริษัทฯ จะปรับราคาจำหน่ายภาพยนตร์ซีรีส์อินเดียที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทยอีก 50% ซึ่งเป็นตลาดที่นิยมได้รับการยอมรับมากขึ้น หลังจากที่ปรับราคาไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว 50%
ทั้งนี้ คาดว่าการปรับราคาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เป้าหมายรายได้ปี 2561 นี้เติบโตขึ้น 20-25% หรือมีรายได้รวมประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท จากปีที่แล้วรายได้ 1,200 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าปีนี้จะโตเพียง 10-15%
ปัจจุบันลูกค้าหลักคือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลเกือบ 20 ช่อง เช่น ช่อง 3 ทั้ง 3 ช่อง ซื้อไปแล้วถึง 14 เรื่อง, ช่อง 8 ซื้อไป 10 เรื่อง และไบรท์ทีวีซื้อซีรีส์ฟิลิปปินส์ 40 เรื่อง รวมทั้งอยู่ระหว่างการเจรจาขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ภาพยนตร์ซีรีส์อินเดียให้อีกหลายช่องทีวีดิจิตอลอย่างน้อย 7 ราย
ส่วนตลาดต่างประเทศก็นิยมภาพยนตร์ซีรีส์อินเดียเช่นกัน หลังจากที่บริษัทฯ เปิดตลาดไปแล้ว เช่น ที่ประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากซีรีส์อินเดียมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับประเทศอินโดนีเซีย จึงทำให้การยอมรับในการชมซีรีส์อินเดียมีมาก
นอกจากนั้นยังมีแผนขยายธุรกิจเข้าไปในส่วนของแพลทฟอร์มออนไลน์รูปแบบของวิดีโอ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะเปิดตัวธุรกิจใหม่ได้ในเร็วๆ นี้
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด หรือเจเคเอ็น/JKN ผู้ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ กล่าวว่า บริษัทฯ จะปรับราคาจำหน่ายภาพยนตร์ซีรีส์อินเดียที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทยอีก 50% ซึ่งเป็นตลาดที่นิยมได้รับการยอมรับมากขึ้น หลังจากที่ปรับราคาไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว 50%
ทั้งนี้ คาดว่าการปรับราคาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เป้าหมายรายได้ปี 2561 นี้เติบโตขึ้น 20-25% หรือมีรายได้รวมประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท จากปีที่แล้วรายได้ 1,200 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าปีนี้จะโตเพียง 10-15%
ปัจจุบันลูกค้าหลักคือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลเกือบ 20 ช่อง เช่น ช่อง 3 ทั้ง 3 ช่อง ซื้อไปแล้วถึง 14 เรื่อง, ช่อง 8 ซื้อไป 10 เรื่อง และไบรท์ทีวีซื้อซีรีส์ฟิลิปปินส์ 40 เรื่อง รวมทั้งอยู่ระหว่างการเจรจาขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ภาพยนตร์ซีรีส์อินเดียให้อีกหลายช่องทีวีดิจิตอลอย่างน้อย 7 ราย
ส่วนตลาดต่างประเทศก็นิยมภาพยนตร์ซีรีส์อินเดียเช่นกัน หลังจากที่บริษัทฯ เปิดตลาดไปแล้ว เช่น ที่ประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากซีรีส์อินเดียมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับประเทศอินโดนีเซีย จึงทำให้การยอมรับในการชมซีรีส์อินเดียมีมาก
นอกจากนั้นยังมีแผนขยายธุรกิจเข้าไปในส่วนของแพลทฟอร์มออนไลน์รูปแบบของวิดีโอ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะเปิดตัวธุรกิจใหม่ได้ในเร็วๆ นี้