“สนธิรัตน์” เตรียมนำทัพเอกชนไทยลุยเปิดตลาดการค้า การลงทุน ภายใต้ยุทธศาสตร์หุ้นส่วนเศรษฐกิจ ประเดิมบุกจีน CLMV อินเดีย และยุโรป พร้อมมอบทูตพาณิชย์ใช้ยุทธศาสตร์เดียวกันนี้ขยายความร่วมมือกับคู่ค้า เผยยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามประเด็นปัญหาที่จะกระทบต่อการส่งออกของไทยแล้วทำการแก้ไขล่วงหน้า
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปีนี้กระทรวงพาณิชย์จะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนนโยบายหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ (Strategic Partnership) อย่างเข้มข้นมากขึ้น โดยจะมุ่งขยายการค้า การลงทุนแบบเจาะจงเป็นรายประเทศและรายเมือง ซึ่งได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศไปศึกษาดูว่ามีประเทศไหนบ้างที่มีศักยภาพสำหรับไทย อะไรเป็นเป้าหมายที่จะไปร่วมมือ ทั้งในด้านการค้าและการลงทุน
“ให้ไปดูว่าแต่ละประเทศมีศักยภาพที่จะช่วยเสริมการค้าการลงทุนกับไทยในด้านไหนบ้าง หรือในด้านการส่งออก สินค้าอะไรของไทยมีโอกาสในการเจาะเข้าสู่ตลาด แล้วจากนั้นให้ไปจัดคณะ จัดทีมภาคเอกชนของไทยเพื่อไปเจรจาเปิดตลาด และขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยผมจะนำทัพไปเอง ซึ่งประเทศที่อยู่ในเป้าหมายแรก คือ จีน CLMV อินเดีย และยุโรป” นายสนธิรัตน์กล่าว
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ประมาณเดือน ก.พ. 2561 จะมอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์เน้นการขยายตลาดให้แก่ผู้ประกอบไทยในลักษณะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจด้วย ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่ส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าเพียงอย่างเดียว โดยต้องดูว่าประเทศที่ประจำอยู่มีศักยภาพในด้านไหนที่ไทยจะร่วมมือกันได้ รวมทั้งจะช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าที่มาจากการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ หรือสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ของไทยได้อย่างไร
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ไปติดตามดูว่าอะไรกำลังจะเป็นปัญหาและส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ไม่ใช่รอให้เกิดผลกระทบก่อนแล้วถึงจะเข้าไปแก้ไขปัญหา ซึ่งที่ผ่านมามีตัวอย่างให้เห็น เช่น การส่งออกลำไยไปอินโดนีเซีย ที่ติดปัญหาการออกใบอนุญาตนำเข้าล่าช้า ทำให้เกิดผลกระทบต่อการส่งออกลำไยของไทย โดยต่อไปก็ต้องไปพูดคุยหรือเจรจากันไว้ล่วงหน้า หรือการต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ของสหรัฐฯ ที่ล่าช้า ก็รู้อยู่แล้วว่าอาจจะไม่ทัน ก็ต้องแจ้งเตือน หรือบอกผู้ส่งออกเป็นการล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับมือ
“ผมต้องการให้ทำถึงขั้นที่ว่า ในแต่ละเดือนอะไรจะเป็นปัญหา และจะหาทางรับมืออย่างไร แต่ละกรมฯ ให้ใส่ไว้ในแผนเลย แล้วต้องทำงานร่วมกัน จะทำงานแบบคนเดียว กรมเดียวไม่ได้ เพราะหลายๆ เรื่องมันเกี่ยวโยงกัน ต้องแก้ปัญหาไปด้วยกัน” นายสนธิรัตน์กล่าว
ส่วนเป้าหมายการส่งออกของปี 2561 ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังหารือร่วมกับภาคเอกชน และจะนัดประชุมร่วมกับทูตพาณิชย์อีกครั้ง ส่วนตัวเลขจะเป็นเท่าใด คงต้องรอประชุมกันก่อน แต่ในการตั้งเป้าหมายไม่อยากให้มองแค่อัตราการเติบโต แต่ต้องลงลึกไปถึงการส่งออกในแต่ละประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้ว การส่งออกของไทยเป็นอย่างไร และถ้าจะเพิ่มการส่งออกต้องทำอะไร เพราะบางประเทศฐานต่ำ ส่งออกเพิ่มนิดเดียวก็โตได้เยอะ หรือประเทศเล็กส่งออกเพิ่มก็โตเยอะ