บอร์ด ปตท. อนุมัติแผนลงทุน 5 ปี (61 - 65) รวม 3.41 แสนล้านบาท โดยปีหน้าวางงบลงทุน 2.46 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนระบบท่อก๊าซ และธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน พร้อมทั้งวางงบลงทุนในอนาคตอีก 2.45 แสนล้านบาท ในอีก 5 - 10 ปีข้างหน้า
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวันนี้ (22 ธ.ค.) อนุมัติแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2561 - 2565) ของ ปตท. วงเงินรวม 341,962 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็นการลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 10,792 ล้านบาท ธุรกิจท่อส่งก๊าซ 56,901ล้านบาท ธุรกิจน้ำมันและการค้าระหว่างประเทศ 12,258 ล้านบาท ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น 21,050 ล้านบาท สำนักงานใหญ่และอื่นๆ 22,760 ล้านบาท การร่วมทุนและลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% 218,201 ล้านบาท โดยปีหน้า ปตท. มีงบลงทุนไว้ 2.46 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ การลงทุนส่วนใหญ่ของ ปตท. ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ การขยายขีดความสามารถนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) พัฒนาสถานีบริการและธุรกิจ ค้าปลีกทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพใน การรองรับการดำเนินงานในระยะยาวธุรกิจ
นายเทวินทร์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ การอนุมัติงบลงทุน 5 ปีนี้ สอดรับตามกลยุทธ์ 3D คือ Do now Decide now และ Design now ได้จัดสรรงบประมาณที่ต้องลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ประกอบด้วย
Do now เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โดยการเพิ่มผลผลิต (Productivity Improvement) จากธุรกิจปัจจุบัน ให้ผลประกอบการอยู่ในระดับชั้นนำ จำนวน 3.12 หมื่นล้านบาท โครงการที่สำคัญได้แก่การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ลดต้นทุนการผลิต
Decide now เร่งตัดสินใจการลงทุนเพื่อการเติบโต โดยมุ่งเน้นความชำนาญในธุรกิจปัจจุบัน ให้ความสำคัญการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านก๊าซธรรมชาติเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานสะอาด การเติบโตในธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก รวมถึงการใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ จำนวน 1.34 แสนล้านบาท โครงการที่สำคัญ อาทิ โครงการขยายท่อส่งก๊าซและคลังรับก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) (LNG Receiving Terminal) และโครงการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ (EECi) เป็นต้น
Design now ลงทุนใน New S-Curve เพื่อการเติบโตในระยะยาว ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลก เทคโนโลยีใหม่ พฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มการใช้พลังงานสะอาด และยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศตามนโยบาย Thailand 4.0 จำนวน 1.63 หมื่นล้านบาท มีทิศทางการลงทุนในระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System), Life Science, Venture Capital เป็นต้น
ปตท. ยังได้ตั้งงบประมาณเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% ได้แก่การโอนกิจการน้ำมันให้ PTTOR เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน จำนวน 1.59 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มทุนในบริษัท PTTOR
นอกจากนี้ ปตท. ยังได้จัดเตรียมงบลงทุนในอนาคต (provisional) จำนวน 245,202 ล้านบาท โดยหลักเพื่อการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่จะเป็น new s-curve ของ ปตท. ในอีก 5 - 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มการใช้พลังงานสะอาดและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ซึ่งธุรกิจใหม่เหล่านี้อยู่ ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้