กระทรวงพลังงานเผยแนวทางการแก้ไขปัญหาสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบล้นทะลักเป็นประวัติการณ์กว่า 5 แสนตัน โดยผู้ค้าน้ำมันและไบโอดีเซลพร้อมดูดซับ 1 แสนตันภายใน 1 เดือน ควักเงินกว่า 2.4 พันล้านบาท ระยะยาวเตรียมหารือบริหารสต๊อกเพื่อให้จำหน่ายบี 7 ตลอดปี 2561
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้ร่วมแก้ไขปัญหาสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) คงเหลืออยู่ในระบบที่มีสูงสุดในประวัติการณ์กว่า 5 แสนตัน ล่าสุดได้หารือกับผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 และโรงงานผลิตไบโอดีเซล (บี 100) ซึ่งเอกชนทั้งหมดพร้อมที่จะร่วมมือรัฐช่วยเหลือเกษตรกรรับซื้อ CPO 1 แสนตันภายใน 1 เดือน ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ขณะเดียวกัน ในระยะยาวกำลังพิจารณาร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ที่จะบริหารสต๊อกเพื่อที่จะสามารถให้เกิดการนำมาผสมดีเซลในสัดส่วน 7% เป็นบี 7 ตลอดทั้งปี 2561
“หลังจากนี้ก็ต้องดูการส่งออกบี 100 การส่งออก CPO รวมทั้งจะหาแนวทางระยะยาวในการจัดการสต๊อกเพื่อผลิตบี 7 ทั้งปี 2561 ซึ่งหากบริหารจัดการได้จะใช้ CPO ได้ 1.2-1.3 ล้านตัน/ปี ซึ่งมากกว่าการใช้ซีพีโอเพื่อการบริโภคที่จะใช้เพียง 0.9-1 ล้านตัน/ปี” นายศิริกล่าว
สำหรับแนวทางการดูดซับที่ผู้ค้าน้ำมันและโรงงานบี 100 จะรับซื้อ CPO 1 แสนตันภายใน 1 เดือน โดยจะมีการใช้วงเงินของเอกชนในการดูดซับซีพีโอรวมกว่า 2,400 ล้านบาท ในส่วนนี้จะแบ่งออกเป็น 1. ดูดซับ CPO 5 หมื่นตัน สำหรับการเพิ่มกำลังผลิตบี 100 เพื่อสต๊อกจำนวน 2 ล้านลิตร จากปกติผลิตปกติ เพื่อใช้สำหรับการผสมบี 7 ในดีเซล เพื่อจำหน่ายหน้าปั๊ม 63 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นการใช้บี 100 จำนวน 4.0 ล้านลิตร/วัน (ใช้ CPO 1 แสนลิตร/เดือน) ดังนั้น ก็ขอความร่วมมือให้ผลิตเพื่อสต๊อกอีก 2 ล้านลิตร/วัน รวมเป็นผลิต 6 ล้านลิตรต่อวัน
2. ดูดซับ CPO อีก 5 หมื่นตัน สำหรับการสต๊อก CPO เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตบี 100 โดยเพิ่มการสต๊อกในถังน้ำมันทั่วประเทศอีก 60 ล้านลิตร จากปัจจุบันถังรวมจัดเก็บได้ 165 ล้านลิตร และมีการสต๊อกไปแล้ว 92 ล้านลิตร
“การสต๊อกทั้งบี 100 และซีพีโอของภาคพลังงานจะดำเนินการเพียง 1 เดือน หลังจากนั้นจะนำมาใช้ผลิตในระบบ เพราะไม่สามารถสต๊อกได้นานจะมีผลต่อคุณภาพผลิต” นายศิริกล่าว