“นายกฯ” เร่งแผนผลิตบุคลากรด้านการบิน

“นายกฯ” กำชับคมนาคม กพท. ประสาน ก.ศึกษาฯ เร่งผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการบินให้เพียงพอและครอบคลุมทุกด้าน “อาคม” เผยมีการผ่อนปรนเพิ่มอายุนักบินเป็น 65 ปี แก้ขาดแคลนแล้ว

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 ได้เห็นชอบผลการพิจารณารายงานการพิจารณา เรื่อง การผลิตบุคลากรด้านการบินของประเทศไทย ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่ง สนช.มีข้อเสนอในด้านการดำเนินการพัฒนาบุคลากรด้านการบิน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการไปแล้วในการผ่อนปรนเรื่องคุณสมบัตินักบินให้มีอายุได้ถึง 65 ปี รวมถึงกรณีนักบินราชการ กรณีไปเป็นนักบินพาณิชย์ สามารถโอนชั่วโมงบินไปได้ เป็นต้น

ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้กระทรวงคมนาคม สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กระทรวงศึกษาธิการร่วมมือในการเร่งพัฒนาบุคลากรด้านการบินให้เพียงพอ ทั้งนักบิน, ช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน, เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้รับมาเร่งดำเนินการ

สำหรับข้อเสนอของ กมธ.คมนาคม สนช.มีสาระสำคัญ ดังนี้

1. ด้านยุทธศาสตร์การบริหารอุตสาหกรรมการบิน ได้แก่ การจัดตั้งคณะทำงานติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนการผลิตนักบินและการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน การออกมาตรการจูงใจและใช้มาตรการด้านภาษีให้สายการบิน โรงเรียนการบินเอกชนและหน่วยงานธุรกิจอุตสาหกรรมการบิน สนับสนุนอุปกรณ์ทางการศึกษาและรับนักศึกษาด้านอุตสาหกรรมการบินเข้าปฏิบัติงานในสถานประกอบการ การเปิดโอกาสให้เอกชนร่วมพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาคของกรมท่าอากาศาน เพื่อประโยชน์ในการฝึกและศึกษาการบิน การจัดตั้งหรือพัฒนาหน่วยงานบริหารยุทธศาสตร์และการวิจัยเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย

การกำหนดยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมการบินของประเทศให้ชัดเจน การสนับสนุนงบประมาณ บุคลากร และพัฒนาสถาบันการบินพลเรือนให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมด้านอุตสาหกรรมการบินต้นแบบของภูมิภาคอาเซียน การจัดตั้งสภาวิชาชีพนักบินพาณิชย์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการวิชาชีพนักบินพาณิชย์อยู่ภายใต้การดูแลของสภาวิชาชีพเดียวกัน การให้ทุนการศึกษาเพื่อจูงใจให้มีผู้เข้ารับการศึกษาในประเทศไทยมากขึ้น และให้ความสำคัญในการจัดทำข้อมูลข่าวสารและความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ

2. ด้านการผลิตบุคลากร
ให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยกำหนดหลักเกณฑ์ตามหลักเกณฑ์สากลในการคิดคำนวณชั่วโมงบินของนักบินที่ปฏิบัติการบินในหน่วยงานราชการ เพื่อนำมาใช้ประกอบในการขอใบอนุญาตในการบินเชิงพาณิชย์ โดยการกำหนดแนวทางเทียบความชำนาญดังกล่าวอาจสามารถขยายผลไปสู่การใช้ประโยชน์จากนักบินของรัฐที่ยังอยู่ในประจำการให้สามารถทำการบิน “พาณิชย์/ภาคเอกชน” ได้ในเวลาเดียวกัน โดยกำหนดวิธีการปฏิบัติให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนนักบินที่มีประสบการณ์ในการบิน “พาณิชย์/เอกชน” ได้

2. ให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยพัฒนาบุคลากรด้านการบิน ได้แก่ นักบิน ช่างซ่อมอากาศยาน และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภาคพื้นดิน ให้เพียงพอและสอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในประเทศ