“พาณิชย์” จับมือผู้ผลิต ห้างสรรพสินค้า จัดงาน “รวมใจ เพิ่มสุข ลดรับปีใหม่” รวม 22 วัน มีสินค้าอุปโภคบริโภค และของใช้ในชีวิตประจำวันร่วมลดราคากว่า 1 หมื่นรายการ ลดราคาตั้งแต่ 20-80% เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนทั้งประเทศ คาดเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท ช่วยเซฟค่าครองชีพ 7-8 พันล้านบาท ส่วนผลสอบห้างเปลี่ยนราคาช่วงชอปช่วยชาติไม่พบการเอาเปรียบ แต่ได้ส่งหนังสือเตือนอีกครั้ง ห้ามปรับราคาโดยไม่มีเหตุผล หากเจอเล่นงานหนัก
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือแนวทางการจัดงานลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนร่วมกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า 15 ราย ผู้ผลิตสินค้า 32 ราย และสมาคมผู้ประกอบการค้า 3 สมาคม วานนี้ (13 พ.ย.) ว่า ที่ประชุมได้มีข้อสรุปที่จะจัดมหกรรมลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ชื่อ "รวมใจ เพิ่มสุข ลดรับปีใหม่" ระหว่างวันที่ 14 ธ.ค. 2560 ถึง 4 ม.ค. 2561 รวม 22 วัน โดยจะเป็นการลดราคาสินค้าต่ำสุด 20% ไปจนถึงสูงสุด 80% เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน โดยถือเป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
สำหรับการจัดมหกรรมลดราคาสินค้าในครั้งนี้ จะเน้นการลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้ในชีวิตประจำวัน รวมแล้วกว่า 10,000 รายการ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เสื้อผ้า เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น โดยที่พิเศษในปีนี้จะมีสินค้าโอทอป สินค้าชุมชน สินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เข้าร่วมงานมหกรรมด้วย เพื่อสร้างตลาดและสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ คาดว่าการจัดงานจะมีเม็ดเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 30,000 ล้านบาท และจะประหยัดค่าครองชีพได้มากกว่าปีก่อนที่ประหยัดได้ถึง 7,000-8,000 ล้านบาท
“การจัดมหกรรมลดราคาสินค้าในครั้งนี้เป็นการจัดในรูปแบบขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้เวลาในการบริหารจัดการเพราะดำเนินการพร้อมกันทั้งประเทศ จึงต้องกำหนดแผนการผลิต การจัดส่งสินค้า การกำหนดราคา ทำให้ไม่สามารถจัดในช่วงเดียวกันกับมาตรการชอปช่วยชาติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ได้” นายบุณยฤทธิ์กล่าว
นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า ส่วนการตรวจสอบห้างสรรพสินค้าที่ประชาชนร้องเรียนว่าพบการปรับขึ้นราคาสินค้าในช่วงมาตรการชอปช่วยชาตินั้น ทางห้างสรรพสินค้าได้ชี้แจงมาแล้วว่าเป็นช่วงที่หมดโปรโมชันพอดี โดยเฉพาะการปรับขึ้นราคาจำหน่ายโทรทัศน์ ซึ่งก่อนหน้าทางห้างได้จัดลดราคา และโปรโมชันสิ้นสุดวันที่ 7 พ.ย. 2560 และได้เปลี่ยนป้ายราคาใหม่ในวันที่ 8 พ.ย. 2560 ทำให้ผู้บริโภคเกิดการเข้าใจผิด ไม่ได้มีการฉวยโอกาสแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่รัฐบาลดำเนินโครงการชอปช่วยชาติ กรมฯ ได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยังห้างสรรพสินค้า ห้างค้าส่งค้าปลีก อย่าปรับเปลี่ยนราคาโดยไม่มีเหตุผล เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด หรือกระทำการที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค เพราะหากตรวจสอบพบจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด โดยมีความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาจำหน่ายสินค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเป็นประจำทุกวัน โดยหากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด และหากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าว สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ