“กกร.” ปรับเป้าส่งออกโตพรวดจากเดิม 3.5-4.5% เป็นโต 6.5-7.5% ส่งผลให้จีดีพีทั้งปีปรับฐานใหม่จากเดิมคาดจะโต 3.5-4% เป็น 3.7-4% มองบาทแข็งค่าเฉลี่ยสิ้นปี 34 บาทต่อเหรียญฯ แต่ไม่กระทบส่งออก
นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สาถาบัน (กกร.) ว่า กกร.ได้ปรับคาดการณ์การส่งออก ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในปี 2560 ใหม่โดยปรับการส่งออกจากเดิม 3.5-4.5% เป็นขยายตัว 6.5-7.5% จึงส่งผลให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ หรือจีพีดีจากเดิมโต 3.5-4% เป็น 3.7-4% ขณะที่เงินเฟ้อเดิม 0.5-1.5% เป็น 0.5-1%
“เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ต่อเนื่องจากแรงส่งการส่งออกที่เติบโตสูงกว่าคาด ประกอบกับการขยายตัวของการท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจีน ตลอดจนเริ่มมีสัญญาณบวกจากการทยอยฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนจึงทำให้ กกร.ปรับเป้าหมายใหม่” นายเจนกล่าว
ทั้งนี้ การส่งออกที่ขยายตัวดีกว่าคาดในช่วง 8 เดือนแรกของปี และยังมีแนวโน้มที่การส่งออกจะยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีจากอานิสงส์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าหลัก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อนั้น แม้ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะขยับขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี แต่เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยตลอดทั้งปีแล้ว คาดว่าคงจะไม่เกิน 1.0%
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีประเด็นที่ต้องติดตามโดยเฉพาะสถานการณ์ในต่างประเทศ อาทิ การเมืองในสหรัฐฯ เยอรมนี ญี่ปุ่น รวมทั้งความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดการเงินยังปรับตัวผันผวน โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเงินบาท
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาจากปัจจัยหลายด้านทั้งภาวะที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า เงินทุนไหลเข้ามาไทยมาก และยังเกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ยที่หลายฝ่ายมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ยช่วงสิ้นปีนี้ ขณะที่ดอกเบี้ยของไทยคาดว่าจะคงจนถึงสิ้นปี ภาพรวมนี้คาดการณ์ว่าจะทำให้ค่าเงินบาทของไทยเฉลี่ยแตะ 34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แต่ก็ยังเชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ดีจะไม่กระทบต่อการส่งออกแต่อย่างใด
