ทองคำยังมีแนวโน้มบวกต่อเนื่อง หลังเงินดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเฟดเริ่มส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนธันวาคมนี้ได้ยากขึ้น ประเมินแนวต้านสำคัญ 1,309 เหรียญ/ออนซ์ หากยังไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ แนะนำทยอยแบ่งทองคำออกขาย เพราะราคาอาจอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้อก่อนดีดตัวขึ้นไปทดสอบใหม่
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำ ว่า ยังอยู่ในโมเมนตัมที่สดใสอย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงอ่อนค่าลงต่อ หลังจากรายงาน FOMC ประจำเดือนกรกฎาคม ยังชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีท่าทีระมัดระวังต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากท่าทีของอัตราเงินเฟ้อนั้นไม่เป็นไปตามเเป้าหมาย
“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนเชื่อว่า โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ลดน้อยลงไป ซึ่งจะกดดันดอลลาร์สหรัฐ และเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อราคาทองคำ”
ขณะเดียวกัน ราคาทองคำยังได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากสถานการณ์การเมืองในฝั่งสหรัฐฯ ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะถูกโดดเดี่ยวจากคณะบริหารธุรกิจ และมีโอกาสที่คณะกรรมการเหล่านี้จะลาออกเพิ่มเติม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ของสหรัฐฯ จะเป็นไปได้ค่อนข้างยาก
โดยปัจจัยที่ยังต้องติดตาม คือ สถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากสหรัฐฯ ยืนยันซ้อมรบกับเกาหลีใต้ สวนทางต่อทางจีน และเกาหลีที่ยังคงกดดันให้ยกเลืกการซ้อมรบดังกล่าว ซึ่งหากมีการตอบโต้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจะได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน ให้จับตาการประชุมของธนาคารกลางต่างๆ และการแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่มักจะส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจผ่านการแถลงการณ์ เช่นเดียวกับการแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อคุมเข้มนโยบายการเงืน ซึ่งจะมีผลต่อสกุลเงินประเทศต่างๆ และราคาทองคำด้วย
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แม้ว่าโมเมนตัมทองคำจะเป็นบวกต่อเนื่อง แต่ราคาได้ปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก โดย 1,296-1,309 เหรียญ/ออนซ์ ยังเป็นโซนแนวต้านสำคัญ เพราะหากราคายังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ ยังคงแนะนำแบ่งทองคำออกขาย โดยราคาอาจมีการอ่อนตัวลงมาเพื่อสะสมกำลัง หรือแรงซื้ออีกครั้ง
"นอกจากนี้ ให้จับตาโซนแนวรับ 1,278-1,273 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งหากราคายังสามารถตั้งฐานเหนือแนวรับดังกล่าวได้ แนวโน้มหรือโมเมนตัมยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสที่ราคาจะดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป"
อีกทั้งควรจับตาการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทประกอบการตัดสินใจลงทุน เพราะว่าตราบที่ค่าเงินบาทยังมีทีท่าที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ยังเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่กดดันราคาทองคำในประเทศ