ความตึงเครียดทางคาบสุมทร และสัญญาณเงินเฟ้อที่ไม่เป็นไปตามเป้า กดดันสินทรัพย์เสี่ยงเกิดแรงขาย นักลงทุนหันเข้าหาทองคำ ผลักดันราคาปรับตัวเพิ่ม ประเมินหากไม่หลุด 1,247 เหรียญ/ออนซ์ โมเมนตัมยังเป็นบวก
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงแนวโน้มราคาทองคำในฃ่วงที่ผ่านมาว่า ทิศทางราคาทองคำมีความสดใส และมีแรงซื้อทำกำไรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงกระตุ้นจากความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับทางเกาหลีเหนือ มีการตอบโต้ และต่อว่ากัน ส่งผลให้เกิดแรงขายในตัวสินทรัพย์เสี่ยง อย่างเช่นตลาดหุ้นทั่วโลกให้มีการปรับฐานลง และมีเม็ดเงินไหลเข้าทองคำในฐานะตัวสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสาขาต่างๆ ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับทิศทางอัตราเงินเฟ้อที่อาจจำเป็นต้องใช้เวลานานในการขยับตัวขึ้นสู่เป้าหมายที่ตั้งเป้าเอาไว้ การส่งสัญญาณดังกล่าวแสดงว่า เฟด อาจจะมีการเลื่อนระยะเวลาในการคุมเข้มนโยบายการเงินออกไป ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวยังกดดันต่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐ และกระตุ้นแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา ยังเป็นตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ เช่นการเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนกรกฎาคม การเปิดเผยข้อมูลเงินทุนไหลเข้าออกสุทธิในการซื้อพันบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ประจำเดือนมิถุนายน ตัวเลขการสร้างบ้าน และการขออนุญาตการก่อสร้าง ซึ่งจะเผยให้เห็นถึงการเติบโตของภาคการก่อสร้างและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชัดเจนขึ้น รวมทั้งจะมีการเปิดเผยของคณะกรรมการ FOMC และการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวดอลลาร์ และราคาทองคำ
ขณะที่ในเชิงกลยุทธ์ลงทุน จากที่ราคาทองคำมีการทะยาน หรือมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบว่า จะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง ดังนั้น ถ้าราคามีการปรับตัวอ่อนลงไม่มากนัก แนวโน้ม หรือโมเมนตัมทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นได้ต่อ ทั้งนี้ อยากให้นักลงทุนจับตาในส่วนของแนวต้านบริเวณ 1,296 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในเดิอนเมษายน และเดือนมิถุนายน หากราคาขึ้นไปทดสอบระดับดังกล่าวต้องดูว่าราคาจะยืนได้มั่นคงหรือไม่
“หากราคาไม่สามารถยืนได้เหนือแนวต้าน อาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาให้เกิดการอ่อนตัว หรือการปรับฐานลง นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจใช้โซนแนวรับระดับ 1,270-1,266 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ เป็นจุดเข้าซื้อ แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้น้อย อาจถอยโซนแนวรับมาอยู่ที่ 1,247 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งหากราคาไม่หลุดดังกล่าว แนวโน้มหรือโมเมนตัมของราคายังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง”strong>
อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถยืนอยู่เหนือโซนแนวต้าน 1,296 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ได้อย่างแข็งแกร่ง โอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,309-1,320 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ยังมีอยู่ ซึ่งการขยับขึ้นของราคาทองคำอาจจะถูกขับเคลื่อนจากสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับการคุมเข้มของนโยบายธนาคารกลางสหรัฐฯ
