xs
xsm
sm
md
lg

แนวโน้มราคาทองคำในเดือนกุมภาพันธ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ราคาทองคำในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 58.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  หรือคิดเป็นการปรับตัวขึ้นราว 5.11% โดยราคาทองคำตลอดเดือน ม.ค.ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์จากความวิตกกังวลว่านโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การการนำของนายโดนัล ทรัมป์ รวมทั้งจุดยืนของทรัมป์ ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และย้ำชัดว่า “อเมริกาต้องมาก่อน” อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการค้าโลก และความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับนานาประเทศ

      นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลว่าอังกฤษอาจใช้วิธีการที่แข็งกร้าวในการถอนตัวออกจากอียู หรือ Hard Brexit ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไร และแรงซื้อทองคำด้านกายภาพหลังอุปสงค์ทองคำในจีน และอินเดียเริ่มฟื้นตัวจากการซื้อทองคำเนื่องในฤดูการแต่งงานของอินเดีย ส่วนอุปสงค์ในจีน คาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นอันเนื่องมาจากความต้องการทองคำในเทศกาลตรุษจีน
 

สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ แนะนำติดตามทิศทางดัชนีดอลลาร์สหรัฐว่าจะอ่อนค่าลงต่อหรือไม่ หลังจากดอลลาร์เคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ เพราะมีแรงขายดอลลาร์ออกมาจากความกังวลกับนโยบายกีดกันทางการค้า ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมทั้งนักลงทุนยังคงติดตามความชัดเจน และรายละเอียดเกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน การลดภาษี เพราะหากยังไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมก็จะส่งผลให้ดอลลาร์อาจร่วงลงต่อ และส่งผลบวกต่อราคาทองคำ

      นอกจากนี้ อาจต้องติดตามทิศทางการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์ผ่านทางการให้สัมภาษณ์ของคณะผู้บริหารรวมถึงประธานาธิบดีทรัมป์ต่อประเด็นเรื่องการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา

       หลังจากในสัปดาห์นี้ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมากล่าวว่า เยอรมนีกำลังใช้ยูโรที่อ่อนค่าเกินความเป็นจริงเพื่อสร้างความได้เปรียบต่อสหรัฐฯ และคู่ค้าในสหภาพยุโรป ด้านประธานาธิบดีทรัมท์ ก็ออกมากล่าวหาว่าจีน และญี่ปุ่นว่าจงใจลดค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้าเช่นกัน ซึ่งความเห็นดังกล่าวได้เพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลชุดใหม่อาจจะนำนโยบายที่ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่ามาใช้ โดยหากยังมีการสื่อสารในทำนองเดียวกันอาจยิ่งกดดันให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่า และเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำได้เช่นกัน
 

ทั้งนี้ ยังคงมีแรงขายทองคำสลับออกมาหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED และเจ้าหน้าที่ FED ท่านอื่นๆ สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยย้ำที่ว่าหาก FED ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำนานเกินไปอาจเกิดความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวม  สำหรับความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นนี้ต้องจับตาไปที่การกล่าวถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธาน FED ต่อคณะกรรมาธิการในสภาคองเกรส ในวันที่ 15 ก.พ. ซึ่งจะมีการกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจะเป็นการส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ จึงแนะนำนักลงทุนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในระยะสั้นราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยของ FED

ด้านค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา มีการแข็งค่าสอดคล้องต่อสกุลเงินในภูมิภาคที่แข็งค่าขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่า แนะนำนักลงทุนพิจารณาการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทประกอบการตัดสินใจลงทุน และติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นครั้งแรกของปี ในวันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 เพื่อประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจการเงิน และร่วมกันพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มุมมองเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคา หลังจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอย่างมาก จนสามารถไต่ระดับสูงสุดจากเดือนก่อนหน้าได้ แต่ก็มีแรงขายสลับออกมาในสัดส่วนพอกัน 

ทั้งนี้ วายแอลจีไม่แนะนำให้เข้าซื้อสะสม หรือการเข้าซื้อแบบไล่ราคา เพราะยังคงมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะหากราคาไม่สามารถทรงตัวเหนือกรอบแนวต้าน 1,245 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อาจทำให้เกิดแรงขายออกมาจนราคาเกิดการพักฐาน และราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้างในลักษณะ Sideway เพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง

        หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,180 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะค่อยๆ ขยับทดสอบแนวต้านได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,245 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้ แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,180 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสค่อยๆ ขยับขึ้นทดสอบกรอบราคาด้านบน

กำลังโหลดความคิดเห็น