xs
xsm
sm
md
lg

ส.อ.ท.ยันออเดอร์ส่งออกส่งสัญญาณมาแรง แต่ยังผวาบาทแข็งค่าเกิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ส.อ.ท.” เผยสัญญาณส่งออกครึ่งปีหลังดีแน่หลังออเดอร์ทะลักเข้าอาเซียนรวมถึงไทย แต่ยังผวาความตึงเครียดคาบสมุทรเกาหลีเหนือหลังคิมน้อยขู่ยิงขีปนาวุธ 4 ลูกใกล้เกาะกวม ขณะเดียวกันบาทแข็งค่าล้ำหน้าเพื่อนบ้าน ชี้แข็งค่า 7-8% ทำมูลค่าส่งออกหายวับ 4-5 หมื่นล้านบาทต่อเดือนทันที หวัง ธปท.จะดูแลให้สอดรับกับภูมิภาค

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสัญญาณคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาในภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทยมากขึ้น จึงทำให้มั่นใจว่าการส่งออกของไทยปี 2560 จะเติบโตในระดับไม่ต่ำกว่า 5% ตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์วางไว้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กังวลและต้องติดตามใกล้ชิดคือ ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีที่จะมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทของไทยที่ล่าสุดแข็งค่าที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน

“คงต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกในส่วนของกรณีที่ผู้นำเกาหลีเหนือระบุจะยิงขีปนาวุธไปยังเป้าหมายใกล้กับเกาะกวม 4 ลูกภายในกลางสิงหาคมนี้ ซึ่งต้องดูว่าเป็นเพียงคำขู่หรือจะยิงจริงหรือไม่ อย่างไร ขณะเดียวกันค่าเงินบาทที่แข็งค่าขณะนี้เราเป็นที่ 1 เมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนโดยเฉลี่ยขณะนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมา 7-8% เมื่อเทียบกับการที่ไทยส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 1.9-2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเราจะสูญเสียจากค่าบาทที่แข็งค่าเดือนละ 4-5 หมื่นล้านบาท ดังนั้นก็เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็คงจะกำลังติดตามอยู่เพื่อให้ค่าเงินบาทของเราสอดคล้องกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค” นายเกรียงไกรกล่าว

สำหรับกำลังซื้อภายในประเทศนั้นยอมรับว่ายังไม่ค่อยฟื้นตัวนักเนื่องจากแรงซื้อของกลุ่มเกษตรกรยังไม่ดีเนื่องจากผลผลิตทางการเกษตรยังมีปัญหาราคาตกต่ำ ประกอบกับบางพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม จึงทำให้การบริโภคในกลุ่มนี้ยังคงซบเซา โดยรัฐบาลเองคงจะต้องหามาตรการดูแล ตัวอย่างที่พบกรณีทุเรียนที่ขณะนี้จีนได้เข้าไปส่งเสริมการปลูกที่เวียดนามจำนวนมาก และอาจจะตามมาด้วยพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ ซึ่งจะสามารถเข้ามาแข่งขันกับไทยได้ ในระยะยาวอาจเป็นปัญหาจึงต้องระมัดระวัง

นายเกรียงไกรกล่าวว่า รัฐบาลขณะนี้พยายามกระตุ้นแรงซื้อในระดับฐานรากด้วยการมุ่งส่งเสริมการอัดฉีดให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) โดยมีแพกเกจการเงินทยอยออกมาพอสมควร ซึ่งก็จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกเหนือจากแรงส่งที่ดีจากการส่งออก และการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเติบโตพอสมควร พร้อมกันนี้ยังมีเม็ดเงินการลงทุนของภาครัฐที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีอีกทาง โดยรัฐต้องเร่งเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมายก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปลายปีนี้ดีขึ้นมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น