xs
xsm
sm
md
lg

“อุตตม” มั่นใจ ศก.ไทยเริ่มฟื้นชัดเจน-เอกชนลุ้นส่งออกโต 6-7%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“อุตตม” เผยสัญญาณเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวโดยมีหลายปัจจัยขับเคลื่อนโดยเฉพาะภาคการส่งออก ความเชื่อมั่นการลงทุนจากเอกชน ขณะที่สภาองค์กรนายจ้างยอมรับส่งออกไทยปีนี้มีลุ้นโต 6-7% สัญญาณคำสั่งซื้อเริ่มทยอยมา

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้พบปัจจัยหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่มีการขยายตัวอย่างมาก ความเชื่อมั่นจากนักลงทุนโดยเฉพาะจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) ที่ทำการสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย ในครึ่งปี 2560 ก็ชี้ชัดว่าทิศทางนักลงทุนญี่ปุ่นมองการเติบโตในประเทศไทยดีขึ้น ดัชนีขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 26 เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่ค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 20 และยังเป็นบวกในทุกอุตสาหกรรม

“มีหลายปัจจัยที่ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวแต่อาจจะยังไม่ถึงระดับฐานราก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จึงได้มอบนโยบายให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งขับเคลื่อนวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ให้มากขึ้นเพื่อที่จะรองรับเศรษฐกิจขยายตัว ขณะเดียวกันก็จะมีการลงทุนในระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทยอยในสิ้นปีนี้ก็จะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีต่อไป อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของหนี้ครัวเรือนของภาคประชาชนนั้นกระทรวงการคลังยืนยันว่าเริ่มดีขึ้นและไม่กระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังแน่นอน” นายอุตตมกล่าว

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกของไทยปี 2560 คาดว่าจะมีโอกาสลุ้นเติบโตได้ระดับ 6-7% เนื่องจาก 6 เดือนแรกการส่งออกของไทยโตถึง 7.8% หรือสูงสุดในรอบ 6 ปี และขณะนี้มีสัญญาณคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้นซึ่งสอดรับกับการนำเข้าวัตถุดิบ 6 เดือนแรกโต 21% และการนำเข้าเครื่องจักรโต 7.4% ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเอกชนเตรียมขยายการลงทุน

“มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจเรากำลังฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจากภาคการส่งออก โดยขณะนี้อัตรากำลังผลิตเริ่มดีขึ้นเพราะสต๊อกสินค้าที่ค้างอยู่เดิมเริ่มลดลงทำให้มีการผลิตใหม่ และมีออร์เดอร์เข้ามาเพิ่ม โดยผมทำธุรกิจขนส่ง (ลอจิสติกส์) เองก็เห็นชัดว่าเริ่มมีการขยายตัวในรอบหลายปี” นายธนิตกล่าว

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยต้องติดตามในแง่ของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาต่อประเทศรัสเซียและเกาหลีเหนือ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่ภายใน 1 ปีที่ผ่านมาไทยมีการแข็งค่าระดับ 8.3% ซึ่งเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอาจจะแข็งค่าเล็กน้อย แต่ในเรื่องของภาพรวมต่อเศรษฐกิจนั้นมีทั้งผลบวกและลบ โดยบาทที่แข็งค่าก็มีผลดีในแง่ของการนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักรที่ถูกลง แต่ผลเสียอาจกระทบรายได้จากการส่งออกในแง่มูลค่าลดลงไป
กำลังโหลดความคิดเห็น