xs
xsm
sm
md
lg

EGCO เล็งผุดนิคมฯ รับ EEC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอ็กโก กรุ๊ปเล็งผุดนิคมอุตสาหกรรมที่ระยอง โดยนำที่ดินโรงไฟฟ้าระยองกว่า 500 ไร่มาพัฒนารองรับการลงทุน EEC จ่อเสนอขายไฟ SPP Hybrid ที่ภาคใต้ขนาด 30 เมกะวัตต์



นายชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุ๊ป (EGCO) เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการนำที่ดินโรงไฟฟ้าระยองที่มีอยู่ราว 500 กว่าไร่มาพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการลงทุนการจัดตั้งระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) คาดว่าจะสรุปผลการศึกษาได้กลางปี 2561

หากบริษัทตัดสินใจพัฒนาที่ดินดังกล่าวก็จะหารือกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ว่าจะพัฒนาที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นนิคมอุตสาหกรรม หรือสวนอุตสาหกรรมรองรับอุตสาหกรรมไฮเทค หากเป็นนิคมฯ ก็จะดึง กนอ.เข้าร่วมถือหุ้นด้วย แต่ถ้าเป็นสวนอุตสาหกรรมก็จะดำเนินการเองทั้งหมด คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100-200 ล้านบาท (ไม่รวมโรงไฟฟ้า SPP 120 เมกะวัตต์ป้อนลูกค้าในนิคมฯ) เนื่องจากที่ดินดังกล่าวได้มีการปรับปรุงพื้นที่อยู่แล้ว เพราะเดิมเป็นพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าระยองที่สิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟมา 3 ปีแล้ว ซึ่งเดิมจะใช้ที่ดินรองรับการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าไอพีพี

นายชนินทร์กล่าวต่อไปว่า บริษัทสนใจที่จะยื่นขายไฟโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน SPP Hybrid Firm ที่ภาคใต้เพียงโครงการเดียว เป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลกำลังผลิต 30 เมกะวัตต์ โดยเอ็กโก กรุ๊ปจะถือหุ้นใหญ่ในโครงการ ส่วนโครงการโซลาร์ รูฟท็อปเสรี บริษัทไม่สนใจที่จะเข้าไปลงทุนจนกว่าแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน (ESS) จะมีราคาถูกลง

นายชนินท์กล่าวต่อไปว่า ในปลายปีนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะมีดีลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในอาเซียนเกิดขึ้นอย่างน้อย 1 โครงการ นอกเหนือจากการซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ “ซาลัก” และ “ดาราจัท” ในประเทศอินโดนีเซีย จากเครือของเชฟรอน คิดเป็นสัดส่วนเ 20.07%

โดยปีหน้าบริษัทฯ ยังมีแผนซื้อกิจการโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมเพื่อสร้างการเติบโตให้บริษัท โดยยอมรับว่าปี 2561 เอ็กโกจะไม่มีโครงการโรงไฟฟ้าใหม่จ่ายไฟเข้าระบบ (COD) หลังจากปีนี้มีโรงไฟฟ้า SPP 3 โรง โรงละ 120 เมกะวัตต์ทยอยจ่ายไฟเชิงพาณิชย์เดือน ก.ค. และ ต.ค.นี้

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการและทยอย COD อีกราว 911 เมกะวัตต์ (รวมโครงการน้ำเทิน 1) โดยปี 2562 บริษัทฯ จะมีโรงไฟฟ้าใหม่จ่ายไฟเข้าระบบหลายโครงการ เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ที่ สปป.ลาว, โรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา และโรงไฟฟ้ามาซินลอค หน่วยที่ 3 ที่ฟิลิปปินส์ ทำให้บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทมั่นใจว่ากำไรปีนี้เติบโตกว่า 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.32 พันล้านบาท เนื่องจากรับรู้กำไรเต็มปีจากโรงไฟฟ้าขนอม และโรงไฟฟ้าชัยภูมิ วินฟาร์ม และโรงไฟฟ้า SPP 3 โรง โรงละ 120 เมกะวัตต์
กำลังโหลดความคิดเห็น