xs
xsm
sm
md
lg

ไฟเขียว “คิงเพาเวอร์” พัฒนาดอนเมือง บอร์ด ทอท.สั่งสอบปัญหาถ่ายรูปวีซ่าฉาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิตินัย  ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่  บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.
บอร์ด ทอท.เห็นชอบ “คิงเพาเวอร์” พัฒนาดอนเมือง 2,510 ตร.ม. อายุ 10 ปี โกยรายได้ขั้นต่ำ 17.68 ล้าน/เดือน พร้อมสั่งยกเลิกสัญญาเคาน์เตอร์ถ่ายรูปวีซ่าเจ้าปัญหา หลอกลวงขูดรีดนักท่องเที่ยว พร้อมสั่งสอบ ระบุที่มาไม่ถูกต้อง ให้หาผู้รับผิดชอบ “นิตินัย” เผย สรุปค่าเช่าธนารักษ์แล้ว จ่อชงบอร์ด 20 ก.ย. พร้อมเร่งพัฒนาที่ดิน 723 ไร่ และแปลง 37 เพิ่มรายได้

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธาน วันที่ 23 ส.ค. มีมติอนุมัติให้บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง อายุสัญญา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ ทอท.ส่งมอบพื้นที่ โดยคิงเพาเวอร์ฯ ได้คะแนนรวมสูงสุด โดยได้เสนอผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือน (Minimum) กว่า 9,200 ต่อ ตร.ม. สูงกว่าราคากลางที่ 6,000 บาท/ตร.ม. รวมเป็นเงิน 17,651,120 บาท หรือประมาณ 212 ล้านบาทต่อปี โดยปรับขึ้น 10% ทุกปี และจากการเจรจาต่อรอง คิงเพาเวอร์ฯ เพิ่มค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้อีกเดือนละ 31,280 บาท รวมเป็น 17,682,400 บาท/เดือน และเรียกเก็บผลประโยชน์ตอบแทนที่ 15% ของยอดรายได้ในเดือนนั้นๆ ขึ้นกับตัวใดจะสูงกว่า โดยให้เวลา 90 วันในการตกแต่งและเข้าพื้นที่ประกอบกิจการได้ประมาณเดือน ธ.ค. 2560

ทั้งนี้ ทอท.เปิดประมูลบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์เมื่อเดือน พ.ค. 2560 ยื่นข้อเสนอวันที่ 29 พ.ค.-9 มิ.ย. โดยมีผู้ซื้อซอง 5 ราย มายื่นข้อเสนอ 4 ราย ได้แก่ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด บริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ซึ่งผ่านคุณสมบัติ 3 ราย คือ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด และบริษัทสรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด

โดยจะส่งมอบพื้นที่เฟสแรกทันที 1,922.78 ตร.ม. ซึ่งมีผลตอบแทนประมาณ 17.6 ล้านบาทต่อเดือน และต่อไปหลัง 30 ก.ย. 60 จะส่งมอบพื้นที่อีก 587.59 ตร.ม. มีร้านค้ารวม 21 จุด รวมพื้นที่ตามสัญญา 2,510 ตร.ม.เนื่องจากจะต้องรอสัญญาผู้เช่าเดิมทยอยหมดและออกจากพื้นที่ ซึ่งจะมีผลตอบแทนเพิ่มอีกตามสัดส่วนพื้นที่ หรือ 9,200 บาทต่อ ตร.ม.ต่อเดือน หรือ 5,405,828 บาทต่อปี

***บอร์ดสั่งเลิกสัญญาเคาน์เตอร์ถ่ายรูป พร้อมให้สอบที่มาถูฏต้องหรือไม่. ชี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ
นายนิตินัยกล่าวว่า กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.เอ็น.เก้าเก้า มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งได้รับสัมปทานจาก ทอท.ให้บริการถ่ายรูปติดหนังสือเดินทางให้แก่ผู้โดยสาร (VISA ON ARRIVAL) ณ สนามบินดอนเมือง แต่มีการละเมิดสัญญาและถูกนักท่องเที่ยวร้องเรียน นั้น บอร์ด ทอท.ได้มีมติให้ยกเลิกสัญญา หจก.พี.เอ็น.เก้าเก้า และให้ บริษัท คิงคอบบร้า มอร์ต้า จำกัด ผู้ให้บริการอีกรายเข้าพื้นที่ในเวลา 22.00 น. ของวันที่ 23 ส.ค.นี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อบริการจุดถ่ายรูปสำหรับ VISA ON ARRIVAL ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ให้ย้ายจุดเพื่อเปิดพื้นที่เพิ่มเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ขณะที่สัญญาของ บ.คิงคอบบร้าจะหมดในวันที่ 30 ก.ย. โดย บ.คิงคอบบร้าจะสามารถเจรจากับคิงเพาเวอร์ที่จะเข้ามาบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ดังกล่าวเพื่อขอดำเนินกิจการดังกล่าวได้

“เดิม กก.รายได้ฯ จะประชุมเดือน ก.ย. แต่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นจะเร่งประชุมในวันที่ 28 ส.ค. แต่บอร์ดเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ควรรอแล้ว จึงสั่งให้ยกเลิกทันที หยุดประกอบการเมื่อมีหนังสือบอกเลิก”

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากยกเลิกสัญญาแล้ว บอร์ด ทอท.ได้สั่งให้สอบสวนที่มาของสัญญา หจก.พี.เอ็น.เก้าเก้า อีกด้วยว่าได้มาอย่างถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ และจะต้องหาผู้รับชอบเรื่องนี้ เนื่องจากทำให้กระทบต่อชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของประเทศอย่างมาก ซึ่งพบว่า กก.รายได้ฯ ทอท.ได้เชิญ หจก.พี.เอ็น.เก้าเก้า เข้ามาเสนอราคา ให้สัญญา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2559 และตามข้อมูลพบว่า หจก.พี.เอ็น.เก้าเก้า มีการกระทำผิดแบบมีหลักฐานรวม 6 ครั้ง

***ชงบอร์ด 20 ก.ย.ค่าเช่าธนารักษ์ เร่งพัฒนาที่ 723 ไร่ และแปลง 37 เพิ่มรายได้
ส่วนกรณีการจัดเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุกับกรมธนารักษ์นั้น นายนิตินัยกล่าวว่าได้ข้อยุติร่วมกันแล้ว โดยรอทางกรมธนารักษ์ทำหลักเกณฑ์ และตัวเลขเพื่อนำเสนอบอร์ด ทอท.ในวันที่ 20 ก.ย. อนุมัติหลักการ สุวรรณภูมิ ส่วนของเขตปลอดภาษีในสนามบิน (Free Trade Zone) พื้นที่ 420 ไร่นั้นจะจัดเก็บในอัตรา 0.01% ของกำไรสุทธิของงานบริหารพื้นที่, พื้นที่เชิงพาณิชย์เก็บ 3% ที่ดินเปล่า เช่น ที่ดิน 723 ไร่ ที่ดินแปลง 37 หากไม่มีการพัฒนาใดๆ จะจ่ายที่ 2% ของมูลค่าที่ดิน ดังนั้น ทอท.จะเร่งแผนแม่บทพัฒนาที่ดินเพื่อเพิ่มรายได้ ซึ่งแผนจะชัดเจนในปี 2561

โดยหลักการจะมี 2 ส่วน คือ สุวรรณภูมิ เดิมเปิดสนามบินปี 49 แต่ธนารักษ์ให้นับตั้งแต่ก่อสร้างปี 45-55 ซึ่งจ่ายไปแล้ว เก็บส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) กำไรมากจ่ายมาก และนับอีกช่วงปี 56-60 ซึ่งยังไม่เพิ่มโครงการใหม่ โดยคิดส่วนแบ่งรายได้บวกกับเงินเฟ้อ ส่วนอนาคตคิดเกณฑ์ Revenue Sharing บวกด้วย ส่วนที่เพิ่มจากผลตอบแทนสินทรัพย์ (ROA) โดยสนามบินอื่นๆ นั้นจะนับทีละ 9 ปี เริ่มที่ปี 50-59 ซึ่งจ่ายไปแล้ว 1,200 ล้านบาท ปี 60-69 จะใช้หลักเกณฑ์ ROA

ตัวเลขจะอยู่ในหลักพันล้านบาท ซึ่งในการชำระเงินนั้น หลักการในส่วนของสัญญาเช่ากำหนดตาม พ.ร.บ.เดินอากาศฯ ซึ่งกรมธนารักษ์ไม่คิด ROA ซึ่งที่สุวรรณภูมิมีประมาณ 80-90% ของพื้นที่ 2 หมื่นไร่ เช่น รันเวย์ แท็กซี่เวย์ อาคารสำหรับให้บริการต่างๆ ส่วนสัญญาเชิงพาณิชย์อีก 10% นั้น ทอท.จะแก้ไขสัญญากับผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มต้นทุนในส่วนของค่าตอบแทนธนารักษ์เข้าไป ทั้งนี้ ไม่มีปัญหาเพราะ ทอท.ได้สงวนสิทธิ์ไว้ในทุกสัญญาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากต้องเริ่มจ่ายให้ธนารักษ์ตั้งแต่ ต.ค. 60 อาจจะปรับแก้ในแต่ละสัญญาไม่ทัน ทอท.อาจจะต้องจ่ายไปก่อน

***ประมูลสุวรรณภูมิเฟส 2 ยังเป็นไปตามเป้า
นายอเนก ธีระวิวัฒน์ชัย (รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่) ทอท. กล่าวว่า การประมูลโครงการในการพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 ในส่วนของการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ราคากลาง 894,959,247.20 บาท จะให้ยื่นซองข้อเสนอราคาในวันที่ 6 ก.ย. ส่วนงานระบบสายพานลำเลียง ราคากลางประมาณ 3 พันล้านบาท เปิดขายซองเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ยื่นซองข้อเสนอในวันที่ 16 ต.ค.

ส่วนการก่อสร้างอาคารที่จอดรถและสำนักงานสายการบิน และงานก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารทิศตะวันออก มูลค่าประมาณ 7 พันล้านบาทอยู่ระหว่างการแยกอาคารที่จอดรถและสำนักงานสายการบินออกมาประมูลก่อนประมาณ 1-2 เดือนนี้ มูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาทเศษ ส่วนอาคารผู้โดยสารอาจจะล่าช้าไปเล็กน้อย

***มั่นใจงวดปี 60 ผู้โดยสารโตตามเป้า 7-8%
นายนิตินัยกล่าวว่า ผลการดำเนินงานงวดปี 60 (ต.ค. 59-ก.ย. 60) จำนวนผู้โดยสารที่จะเข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานของ ทอท.จะเติบโต 7-8% ตามเป้าหมาย หลังจากงวด 9 เดือนแรก (ต.ค. 59-มิ.ย. 60) เติบโตขึ้นราว 7.4% ซึ่งในจำนวนนี้ผู้โดยสารระหว่างประเทศเติบโตกว่า 10% จากปกติจะเติบโตสอดคล้องภาพรวม เนื่องจากในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 59 ได้รับผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้จำนวนผู้โดยสารชะลอตัวลงไปเหลือเติบโต 6% และ 3% ตามลำดับ แต่ในเดือน ธ.ค. 59 ฟื้นขึ้นมาเติบโตสูงถึง 10%

“สรุปแล้วเราได้ผ่านช่วงท้องช้างไปแล้วเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว หรือในช่วงไตรมาส 1 แต่ 3 ไตรมาสผู้โดยสารโตขึ้นมา 7.4% ตอนนี้ comeback for be high ก็ตีกลับตามเป้า” นายนิตินัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น