“พาณิชย์” ดันไทยลงทุนธุรกิจความงาม ชิงส่วนแบ่งตลาดหมื่นล้านในพม่า

“พาณิชย์” ดันเอกชนไทยลงทุนธุรกิจคลินิกความงามและเครื่องสำอางในพม่า หลังพบชาวพม่าใส่ใจความสวยความงามมากขึ้น แถมมูลค่าตลาดสูงถึงปีละกว่าหมื่นล้านบาท แนะเจาะผ่านแฟรนไชส์และหาพันธมิตรร่วมลงทุน

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนธุรกิจด้านคลินิกความงาม และเครื่องสำอางในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) เพิ่มขึ้น เนื่องจากเห็นแนวโน้มอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยตลาดความงามและธุรกิจเครื่องสำอางในพม่ามีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 14% คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมกว่า 318 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.11 หมื่นล้านบาท รวมทั้งยังพบว่าพม่ามีงบประมาณการโฆษณาในกลุ่มอุตสาหกรรมความงามนี้ เพิ่มขึ้นมากถึง 77% ต่อปี ทำให้เป็นโอกาสของธุรกิจไทยที่จะเข้าไปลงทุนและเปิดตลาดในพม่าได้

“ผู้บริโภคพม่าให้ความสำคัญกับแบรนด์และคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก และแบรนด์ไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดพม่าเป็นอย่างดี ประกอบกับชาวพม่าส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานและมีรายได้เพิ่มขึ้น จึงหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงามกันมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของธุรกิจความงามของไทย” นางอภิรดีกล่าว

นางอภิรดีกล่าวว่า สำหรับแผนการผลักดันให้ผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนธุรกิจคลินิกความงามและเครื่องสำอางในพม่านั้น ภาคเอกชนไทยจะต้องขยายธุรกิจในรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ เช่นเดียวกับรูปแบบของแบรนด์นิติพล และแบรนด์วุฒิศักดิ์ ด้วยการให้นักลงทุนท้องถิ่นดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเช่าสำนักงาน เนื่องจากราคาค่าเช่าในพม่าค่อนข้างสูง หรือการหาพันธมิตร (พาร์ตเนอร์) ท้องถิ่นที่มีศักยภาพ เนื่องจากพาร์ตเนอร์ที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มองค์ความรู้ด้านการตลาดและการเข้าถึงตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ เอกชนไทยจะต้องศึกษาข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคให้ดี โดยปัจจุบันผู้บริโภคชาวพม่าคำนึงถึงบุคลิกภาพของตนเองมากขึ้น และมีความต้องการสินค้ามีนวัตกรรมใหม่ๆ สอดรับกับการเติบโตของสังคมเมือง การเติบโตของสังคม Social Network ค่านิยมดารา นักแสดงไทย จากภาพยนตร์และละครไทย และการที่เมียนมาเริ่มมีเวทีประกวดต่างๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้กำลังซื้อมีมากขึ้น

ส่วนข้อควรระวังในการลงทุน จะต้องคำนึงถึงสัญญาการเช่าสำนักงาน เนื่องจากกฎหมายพม่ากำหนดว่าระยะเวลาการเช่าที่ต้องทำสัญญาแบบปีต่อปี และต้องชำระค่าเช่าล่วงหน้า 1 ปี, ต้องศึกษากฎหมายการลงทุน, การลงทุนธุรกิจบริการ สามารถถือหุ้นได้ 100% แต่ต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 5 หมื่นเหรียญสหรัฐ แบ่งชำระได้ 2 งวด และต้องศึกษาเรื่องการขึ้นทะเบียนสินค้าประเภทเครื่องสำอาง อาหารและยา รวมถึงขั้นตอนการนำเข้า

ปัจจุบันมีคลินิกเสริมความงามของไทยที่เข้ามาตั้งในพม่าแล้วหลายราย เช่น วุฒิศักดิ์ คลินิก, นิติพล คลินิก, ดร.ปัญญา (3 สาขา), ธนพร คลินิก อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น และพฤกษา คลินิก อยู่ระหว่างการศึกษาลู่ทางธุรกิจ