เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ จัดกิจกรรมพิเศษ “LIVE IN THE MOMENT” (ลีฟ อิน เดอะ โมเมนต์) ถ่ายทอดความรัก สายใยแห่งความผูกพันของแม่-ลูก ผ่านงานศิลปะร่วมสมัยแบบ Live Performance โดยศิลปินรุ่นใหม่ที่มาแรงและน่าจับตามอง โอ๊ต - พัฒนพงศ์ มณเฑียร หรือ โอ๊ต มณเฑียร นักวาดภาพ นักเล่าเรื่อง นักเขียน และอาจารย์สอนศิลปะ และ โจนาส เดปท์ นักเปียโนผู้เปี่ยมด้วยประสบการณ์ทางด้านดนตรีจากเบลเยียม ร่วมกันสร้างผลงานศิลปะโสตทัศนศิลป์ออกมาเป็นภาพวาดชาร์โคล ขนาด 1.20 เมตร และเสียงเปียโนที่ก่อกำเนิดท่วงทำนองจากจังหวะเสียงหัวใจของแม่ ศิลปะการแสดงในรูปแบบนี้นับเป็นครั้งแรกของโลกที่นำเอาเสียงจังหวะหัวใจมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ
โดย พัฒนพงศ์ มณเฑียร - โอ๊ต มณเฑียร ศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะจากความรักของแม่ กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานในครั้งนี้ว่า “โอ๊ต และโจนาส เราสองคนสนใจเรื่องความสัมพันธ์ สเปซ และการทำงานร่วมกันระหว่างเสียงกับภาพอยู่แล้ว พอได้มาทำงานร่วมกับเอ็มโพเรียม ที่เน้นไปที่ความรู้สึก การมีโมเมนต์ที่ดีร่วมกัน จึงกลายเป็นไอเดียว่าเราน่าจะพัฒนางานชิ้นหนึ่งที่โฟกัสเกี่ยวกับความรู้สึกการอยู่ในพื้นที่ด้วยกันสองคนหรือว่าแบบครอบครัว เลยกลายเป็นงานชิ้นนี้ขึ้นมา
โดยงานที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงแบบสดๆ ณ ปัจจุบันขณะ เราสองคนรู้สึกว่ามันมีพลังบางอย่างเกิดขึ้น เป็นการส่งต่อพลังงานให้กันและกัน การไลฟ์ หรือแสดงแบบสด ความเหมือน ไม่เหมือน อาจไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นของเราคือ วาดรูปอย่างไรให้มัน “เป็น” เป็นในที่นี้คือ ต้องมีพลังงานชีวิตอยู่ในนั้น จะไม่คิดเรื่องความสวย ไม่คิดให้มันเพอร์เฟกต์ เราเหมือนเป็นเครื่องดนตรีอย่างหนึ่ง สิ่งพลังงานที่เขาให้มา รูปลักษณ์ ผัสสะต่างๆ ที่มันเข้ามากระทบเรา เราก็ถ่ายทอดออกแบบปัจจุบันขณะ การไลฟ์จึงเป็นเรื่องที่สนุกดี การเดาไม่ได้ว่าแต่ละอันจะออกมาเป็นยังไงคือความท้าทาย ถ้าศิลปะเป็นอะไรที่เดาได้ก็ไม่สนุก ศิลปะควรเป็นอะไรที่ใหม่ พาคนไปในที่ที่เขาไม่เคยไปมาก่อน ได้รู้สึกอะไรที่เขาไม่ได้รู้สึกในมุมปกติ”
สำหรับความรู้สึกที่ได้มาทำงานศิลปะมอบเป็นของขวัญ และความทรงจำดีๆ ระหว่างแม่ลูก “ความรู้สึกขณะวาดภาพแต่ละคนคือรู้สึกไม่เหมือนกันเลย แต่เราคิดว่าทั้งหมดทุกคนเท่าที่เห็นค่อนข้างตอบรับดี ดูตื่นเต้น และแฮปปี้ที่ได้มาใช้เวลาด้วยกัน มันมีจังหวะหนึ่งที่แต่ละคนที่อยู่ตรงนี้โฟกัสแค่ตอนอยู่ด้วยกันและกัน โอ๊ตรู้สึกว่าเป็นโมเมนต์ที่พิเศษสำหรับเรา และเป็นแรงบันดาลใจให้เรามากๆ สำหรับการวาดภาพ และรู้สึกมีความสุขมากๆ ในวันนี้”
LIVE IN THE MOMENT ศิลปะแบบสดๆ ณ ปัจจุบันขณะ สร้างสรรค์จากเสียงหัวใจแม่ เกิดขึ้นโดยอุปกรณ์วัดการเต้นของหัวใจถูกติดไว้ที่อกข้างซ้ายของแม่ และผ่านเทคนิคการขยายเสียงให้ดังก้องทั่วบริเวณจัดงาน อี สเปซ ชั้นจี ทำหน้าที่เป็นเวทีเชื่อมต่อความรักให้ชัดเจนขึ้นอีกครั้ง จังหวะการเต้นของหัวใจของแม่ (Heartbeat) ดังขึ้น เกิดเป็นแรงบันดาลใจและท่วงทำนองให้โจนาสบรรเลงเปียโนตามเสียงจังหวะหัวใจ ซึ่งความพิเศษคือ จังหวะของหัวใจแต่ละคนเต้นไม่เหมือนกัน จังหวะบรรเลงเปียโนจึงไม่เหมือนกันตามไปด้วย ทุกคนจึงมีท่วงทำนองพิเศษเป็นของตัวเอง คีย์โน้ตที่เกิดขึ้นไล่ตามอารมณ์และความรู้สึกของผู้เป็นแม่ ส่งกระแสความรัก ห่วงใย ความผูกพัน ผ่านท่วงทำนองที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ให้ โอ๊ต มณเฑียร ตวัดลายเส้นวาดภาพแม่ลูกจากแท่งชาร์โคล์ที่บังคับความเข้ม เบา ของลายเส้นได้ตามจังหวะอารมณ์ ตามที่โอ๊ต มณเฑียร เคยให้เหตุผลว่า ชาร์โคลมีความใกล้คียงกับลมหายใจมากที่สุด มีจังหวะที่เน้นหนักเป็นเส้นดำเข้ม ไปจนถึงเส้นบางๆ เหมือนลมหายใจ เป็นการสร้างลายเส้นที่สอดคล้องกับอารมณ์ และพลังงานที่อยู่ในลมหายใจได้เป็นอย่างดี
ในครั้งนี้ยังได้รับกียรติจากดีไซเนอร์ผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการแฟชั่นไทย หมู อาซาว่า - พลพัฒน์ อัศวะประภา พร้อมด้วยคุณแม่ เอกิโอะ อัศวะประภา กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์งานศิลปะแบบโมเมนต์ปัจจุบันขณะว่า “รู้สึกชื่นชมในวิธีคิดครับ มันเป็นเรื่องของความซาบซึ้งที่สมัยใหม่ อาร์ติสท์ช่างคิดว่าจะทำยังไงให้เราได้สัมผัสกับความรักของแม่ แปลความรักของแม่ออกมาเป็นกระบวนการทำให้มีความน่าสนใจ ซาบซึ้ง และแปลกใหม่ สำหรับผมเองเป็นคนที่ทำงานอยู่กับความคิดสร้างสรรค์อยู่แล้ว ก็ขอชื่นชมว่านี่ป็นอีกมุมมองความรักรูปแบบหนึ่งที่แม่มีต่อลูก ลึกซึ้ง แปลกใหม่ พอได้เห็นผลงานก็ชื่นชอบผลงาน และกระบวนการทั้งหมดมากๆ การที่เราได้ยินเสียงหัวใจแม่มันรู้สึกซาบซึ้งอยู่แล้ว ประกอบกับเสียงเปียโนและรูปภาพ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบกันขึ้นมาทำให้เราเกิดความตื้นตันมากๆ ครับ”
นอกจากนี้ยังได้พูดถึงคำพูดของแม่ที่ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ว่า “คำสอนของแม่มีเยอะแยะเต็มไปหมดเลย แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือ คุณแม่เป็นตัวอย่างที่ดี ปลูกฝังเราในทุกๆ เรื่อง ทำให้เราเห็นตั้งแต่เด็กๆ ว่าคนที่ต้องการประสบความสำเร็จมันต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เขาแสดงให้เราเห็นอยู่ตลอดเวลา ทุกวันนี้แม่ก็ยังทำงานหนักอยู่ หัวสมัยใหม่ อายุแปดสิบกว่าแต่ก็ยังเล่นอินเทอร์เน็ต ส่งอีเมลคุยกับเพื่อน ยังออกกำลังกาย เป็นคนช่างแต่งตัว ดูแฟชั่น ดื่มไวน์ อ่านแมกกาซีน เขาเป็นทุกอย่างที่เราเป็น จะบอกว่าแม่เป็นแม่แบบของผมน่าจะเป็นคำที่ดีที่สุด เพราะเขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่หล่อหลอมเราแบบที่เราเป็นในทุกวันนี้”
นอกจากนี้ ภาพที่วาดขึ้นมาถูกมอบเป็นของขวัญที่เอ็มโพเรียมฯ ตั้งใจมอบให้คุณแม่ในวันแม่ปีนี้ เพื่อตอกย้ำภาพของการเป็นมากกว่าพื้นที่รีเทล ที่ให้ผู้คนได้ใช้เวลาร่วมกัน และมีความรู้สึกดีๆ โมเมนต์ดีๆ ในที่แห่งนี้ นอกจากนี้ เอ็มโพเรียมฯ ยังพรั่งพร้อมด้วยบริการพิเศษ ข้อเสนอ สิทธิประโยชน์ และโปรโมชันดีๆ ต้อนรับเทศกาลวันแม่ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ และสำหรับลูกที่อยากจะเซอร์ไพรส์ หรือซื้อของขวัญให้คุณแม่ สามารถใช้บริการส่งของฟรีโดย Lalamove ส่งถึงมือแม่ รวดเร็ว ทันใจ ได้ตั้งแต่วันนี้ - 15 สิงหาคมนี้ โดยมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่จุดบริการ “Love Is On The Way Free Delivery Service by Lalamove” บริเวณทางเข้าห้างฯ ชั้น 2
ติดตามความเคลื่อนไหว และรายละเอียดกิจกรรมอื่นๆ ได้ที่ Facebook & Instagram : @EmporiumDepartmentStore, Website: http://www.emporium.co.th/