งานไวเออร์ เซาท์อีสต์เอเชีย 2017 งานแสดงสินค้านานาชาติอุตสาหกรรมลวดและเคเบิลแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 12 และงานทูป เซาท์อีสต์เอเชีย 2017 งานแสดงสินค้านานาชาติอุตสาหกรรมท่อและท่อร้อยสายแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 11 กลับมาจัดแสดงอีกครั้ง ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) ระหว่างวันที่ 19 ถึง 21 กันยายน 2560
งานแสดงสินค้าที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมหลัก 4 ภาคส่วน ทั้ง ลวด เคเบิล ท่อ และท่อร้อยสาย ซึ่งพร้อมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ จากบริษัทชั้นนำกว่า 400 ราย จาก 30 ประเทศทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ผู้จัดจำหน่าย ผู้ผลิต วิศวกร และผู้จัดซื้อจากทั่วโลกเข้าเยี่ยมชมงานมากถึง 7,000 ราย งานในครั้งนี้ยังคงความโดดเด่นด้วยการสร้างโอกาสการพบปะพูดคุยทางธุรกิจ ระหว่างผู้ออกแสดงสินค้ากับผู้เข้าชมงาน เพื่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจในระดับภูมิภาค การติดตามข้อมูลด้านแนวโน้มของอุตสาหกรรม เครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์เพื่อความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ๆ อีกด้วย
งานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นทุกๆ สองปีนี้ มียุทธศาสตร์สำคัญในการนำเสนอเวทีแสดงสินค้าครบวงจรสำหรับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมเพื่อขับเคลื่อนสู่โอกาสการเติบโตทางการตลาด และการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมและภาคการผลิตที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กลุ่มอุตสาหกรรมปลายน้ำ มีการใช้งานลวดและท่อที่เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้นลวด เคเบิล ท่อ และท่อร้อยสาย นับว่ามีบทบาทอย่างยิ่งในตลาดอุตสาหกรรมยุคปัจจุบัน และยังมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าทางการตลาดของลวดและสายเคเบิลจะเติบโตขึ้นสูงถึง 297,400 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี พ.ศ. 2562 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ภายใน 5 ปีมากถึง 7.7% ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของกลุ่มอุตสาหกรรมปลายน้ำ ได้แก่ การโทรคมนาคม, พลังงาน, ยานยนต์ และการก่อสร้าง
จากข้อมูลของธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) อุตสาหกรรมพลังงานและการขนส่ง คิดเป็น 62.6% ของความต้องการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศกลุ่มอาเซียน (ASEAN) ภายในปี พ.ศ. 2563 ในขณะที่โกลด์แมน แซคส์ ได้คาดการณ์ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานในด้านพลังงานและการขนส่งของประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ว่าจะสูงถึง 524,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี พ.ศ. 2563 โดยข้อมูลเหล่านี้มีหลักฐานรองรับจากรายงานของสถาบันแมคคินซีย์โกลบอล ที่ระบุว่า หากกลุ่มประเทศอาเซียนสามารถดำเนินการรวมตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบได้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้จะสามารถเพิ่มมูลค่าการผลิตทั่วโลกได้ถึง 625,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อ GDP ภายในปี พ.ศ. 2573
สอดคล้องกับแนวโน้มและการปรับเปลี่ยนของอุตสาหกรรม ภายในงานจะจัดแสดงสินค้าที่หลากหลาย และยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นควบคู่กัน รวมถึงงานสัมมนาโดย TUMCIVIL.COM และ บริษัท ยูโลจี กรุ๊ป ที่มีความชำนาญทางด้านการออกแบบอาคารสูงที่รองรับแรงแผ่นดินไหวโดยเฉพาะ นำโดย รศ.ดร.ไพบูลย์ ปัญญาคะโป รวมไปถึงงานประชุมเกี่ยวกับการบริหารคุณภาพทั่วทั้งองค์กร (Total Quality Management) จัดโดยสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) พร้อมทั้งการนำเสนอทางเทคนิคจากผู้ออกแสดงสินค้าอีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีบริการจับคู่ทางธุรกิจเพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรในกลุ่มอุตสาหกรรม สมาคมทางการค้าและหน่วยงานภาครัฐ นับเป็นอีกหนึ่งแผนงานเพื่อการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ โดยงานไวเออร์ แอนด์ ทูป เซาท์อีสต์เอเชีย 2017 พร้อมให้ผู้ออกแสดงสินค้าและผู้เข้าชมงานจากทั่วโลก สามารถทดสอบและศึกษาพัฒนาการล่าสุด รวมถึงข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมลวดและท่อ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจในระดับนานาชาติ ทั้งตอบสนองถึงความท้าทายทางธุรกิจในอนาคต
สำหรับการจองพื้นที่ภายในงาน และลงทะเบียนสำหรับเข้าชมงานไวเออร์ แอนด์ ทูป เซาท์อีสต์เอเชีย 2017 สามารถเข้าชมข้อมูลได้ที่ www.wire-southeastasia.com และ www.tube-southeastasia.com