xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแผนพัฒนาท่าเรือจุกเสม็ด “ท่องเที่ยว-สินค้า” รองรับ EEC

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พิชิต” ลงพื้นที่ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ-กองทัพเรือ (บริเวณท่าเรือจุกเสม็ด) ชลบุรี ติดตามความพร้อมการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสำหรับเรือเฟอร์รี เรือสำราญขนาดใหญ่ และการรองรับการขนส่งสินค้า เชื่อมโยงระบบการขนส่งทางราง รถไฟความเร็วสูง สนามบินอู่ตะเภา รองรับ EEC ตามนโยบาย

นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะตรวจเยี่ยมพื้นที่ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ-กองทัพเรือ (บริเวณท่าเรือจุกเสม็ด) พร้อมรับฟังบรรยายสรุปจาก พลเรือตรี นฤพล เกิดนาค ผู้อำนวยการการท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ เกี่ยวกับการดำเนินการของท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ-กองทัพเรือ ซึ่งมีพื้นที่ประกอบการบริเวณท่าเรือจุกเสม็ดให้บริการเป็นท่าเทียบเรือจำนวน 6 ท่า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มีแผนงานในการพัฒนาท่าเรือพาณิชย์ฯ ให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพ ประกอบด้วยโครงการต่างๆ

คือ 1)โครงการศึกษา สำรวจ และออกแบบวางผังการใช้ประโยชน์พื้นที่ทั้งด้านความมั่นคงและด้านการส่งเสริมโครงการการขนส่งของภาครัฐ 2)โครงการก่อสร้างท่าเรือเฟอร์รี พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก โดยดำเนินการปรับปรุงท่าเทียบเรือหมายเลข 6 ท่าเรือจุกเสม็ด เป็นสะพานท่าเทียบเรือกว้าง 13 เมตร ยาว 75 เมตร จำนวน 2 สะพาน ซึ่งแต่ละสะพานสามารถเทียบเรือได้ทั้ง 2 ด้าน

3) โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสำหรับเรือเฟอร์รี พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก จำนวน 1 อาคาร มีพื้นที่โครงการประมาณ 20,000 ตารางเมตร 4) โครงการปรับปรุงร่องน้ำและบริเวณพื้นที่จอดเรือท่าเรือจุกเสม็ด เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการรองรับเรือขนาดใหญ่ของท่าเรือพาณิชย์ฯ 5)โครงการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นบริเวณเกาะจระเข้ เพื่อรองรับการให้บริการเรือสินค้าขนาดใหญ่ให้สามารถเข้า-ออกเทียบท่าเทียบเรือน้ำมัน (ท่า POL) ได้ และลดปัญหาคลื่นลมและน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งและท่าเรือ

6) โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือน้ำมัน (ท่า POL) เป็นท่าเรืออเนกประสงค์ สามารถรองรับเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ (Cruise) 7) โครงการพัฒนาพื้นที่ธุรกิจและบริการเชื่อมต่อพื้นที่ท่าเทียบเรือเฟอร์รีและท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ เพื่อสนับสนุนการให้บริการเชิงพาณิชย์ และรองรับนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของรัฐบาล

8) โครงการปรับปรุงพื้นที่ให้บริการรองรับ MULTIMODAL เพื่อให้เชื่อมโยงกับทุกระบบการขนส่ง ทั้งทางถนน ทางราง และอากาศ เพื่อรองรับการเป็น LOGISTICS HUB ในภาคตะวันออก และ 9) โครงการจัดหาเครื่องมือและเครื่องทุ่นแรงสำหรับกระจายสินค้า

ทั้งนี้ นายพิชิตได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมท่าเรือพาณิชย์ฯ ซึ่งมีศักยภาพในการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวด้วยเรือเฟอร์รี และเรือสำราญขนาดใหญ่ สามารถรองรับการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือพาณิชย์ฯ และท่าเรือชายฝั่งอื่นๆ ทั้งในประเทศและภูมิภาค อีกทั้งเชื่อมโยงกับระบบการขนส่งทางรางโครงการรถไฟความเร็วสูง ท่าอากาศยานอู่ตะเภา และรองรับโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของรัฐบาล โดย ได้ให้ข้อเสนอแนะการบริหารท่าเรือพาณิชย์ฯ ในอนาคตเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมการทำธุรกรรมระหว่างประเทศทางด้านการตลาด การพัฒนาบุคลากร รวมทั้งวางระบบบริหารการจัดการที่ทันสมัยและเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น