เลขาธิการอีอีซีคาดทยอยเปิดให้บริการท่าเรือ 3 แห่งเชื่อมโยงรถไฟทางคู่ในพื้นที่อีอีซีได้เร็วกว่ากำหนดจากแผน 1 ปี พร้อมสั่ง สนข.เร่งศึกษารูปแบบการเชื่อมโยง เตรียมรายงาน “บิ๊กตู่” 16 มิ.ย.นี้ที่จะลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (สกรศ.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กรศ.) ที่มีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าแผนเชื่อมโยงท่าเรือ 3 แห่ง คือ ท่าเรือแหลมฉบัง / มาบตาพุด และสัตหีบ กับโครงการรถไฟทางคู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งในพื้นที่อีอีซีภายหลังเร่งรัดกระบวนการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ พีพีพี และการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้ท่าเรือทั้ง 3 แห่งทยอยเปิดให้บริการได้ในปี 2564-2565 จากเดิมในปี 2566 ขณะที่รถไฟทางคู่จะพร้อมเข้ามาเชื่อมระบบประมาณปี 2565
“หลังจากที่หารือในครั้งนี้ภาพรวมก็จะได้นำเสนอรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขต ศก.ภาคตะวันออกที่มีนายกฯ เป็นประธาน 16 มิ.ย. ซึ่งนายกฯ จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบความคืบหน้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง” นายคณิศกล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรศึกษารูปแบบการเชื่อมโยงแบบเชิงเดี่ยว หรือ Single Operator ซึ่งจะทำให้พื้นที่อีอีซีสามารถเชื่อมโยงกับระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ได้ด้วย และช่วยกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่จะให้การขนส่งทางรางของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 30% ตามมาตรฐานสากลจากขณะนี้การขนส่งในพื้นที่อีอีซียังใช้ระบบรางเพียง 8%
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวว่า ได้รายงานยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีช่วงปี 2558-2889 พบว่าสูงถึง 2.87 แสนล้านบาท และ 70% เป็นการลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยไตรมาสแรกปี 2560 มีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 1.6 หมื่นล้านบาท คาดว่าเมื่อแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมีความชัดเจน และ พ.ร.บ.อีอีซีประกาศใช้ จำนวนนักลงทุนเป้าหมายจะเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีการยื่นขอรับส่งเสริมฯ ในอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี1.5 แสนล้านบาท
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)กล่าวว่า กนอ.ได้จัดสรรพื้นที่อีอีซีนำร่องสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาด 400 ตารางเมตร บริเวณริมถนนสุขุมวิท จัดตั้งเป็น Co-Working Space ซึ่งจะพร้อมเปิดให้บริการช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้