เผยผล ICAO หลังตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยโครงการ USAP-CMA จำนวน 463 ข้อ ไม่พบประเด็นที่มีนัยสำคัญต่อการรักษาความปลอดภัย แต่มี 49 ประเด็นที่ปรับปรุงหรือมีมาตรฐานอยู่แล้วแต่ควรแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มกำลังคนและประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เหนื่อยล้าจนเกินไป “กพท.” เผยอีก 60 วัน ICAO จะแจ้งผลเป็นทางการ ขณะที่แนะให้ 38 สนามบินภูมิภาคแต่ละแห่งจัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยด้วย
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการประชุมสรุปผลการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนตามโครงการ USAP-CMA ว่า ผลการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนตามโครงการ USAP-CMA ที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO เข้ามาตรวจสอบเมื่อวันที่ 11-21 กรกฎาคม 2560 ซึ่งในการตรวจสอบมีคำถามทั้งหมด 463 ข้อ ผลปรากฏว่าไม่พบประเด็นที่มีนัยสำคัญต่อการรักษาความปลอดภัย จะมีเพียงประเด็นที่ต้องปรับปรุงหรือมีมาตรฐานอยู่แล้วแต่ควรแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นรวม 49 ประเด็น
ซึ่งขั้นตอนจากนี้ คือหลังจากวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 ไป 60 วัน ICAO จะส่งรายงานผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการมาให้อีกครั้ง หลังจากนั้นภายในอีก 30 วันจะเป็นช่วงเวลาที่เปิดโอกาสให้ประเทศไทยเสนอข้อโต้แย้งหรือยืนยันการยอมรับรายงานผลการตรวจสอบนั้น หากขั้นตอนนั้นเสร็จสิ้น อีกภายใน 30 วันประเทศไทยจะต้องยื่นเสนอแผนปรับปรุงแก้ไขกลับไปให้ ICAO ทั้งนี้ ช่วงเวลาในการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขทั้งหมดขึ้นอยู่กับแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบประเด็นการปรับปรุงแก้ไขนั้นๆ
สำหรับรายละเอียดใน 49 ประเด็นที่ ICAO แนะนำ มีประเด็นที่ควรต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ เรื่องการเพิ่มกำลังคนด้านการรักษามาตรฐานการรักษาความปลอดภัย ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้านการบิน (Inspector) ของ กพท. และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของแต่ละสนามบิน เนื่องจากท่าอากาศยานในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือระหว่างประเทศมีนโยบายให้ใช้มาตรฐานเดียวกัน จึงทำให้ต้องมีการเพิ่มกำลังคนและประสิทธิภาพให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในปัจจุบันเหนื่อยล้าจนเกินไป
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอแนะเรื่องการจัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยของแต่ละท่าอากาศยานด้วย เพราะขณะนี้แผนการรักษาความปลอดภัยยังมีไม่ครบทั้ง 38 ท่าอากาศยาน ซึ่งทุกท่าอากาศยานต้องจัดทำแผนรักษาความปลอดภัยสำหรับท่าอากาศยานของตนและเสนอให้ กพท.พิจารณารับรองว่าเป็นไปตามมาตรฐานต่อไป
ทั้งนี้ กพท.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ เป็นต้น เข้าร่วมการประชุมเพื่อรับฟังข้อมูล ICAO ด้วย