กางแผน AEDP ปรับใหม่รับลูกนายกฯ เพิ่มสัดส่วนผลิตไฟจากพลังงานหมุนเวียนจาก 20% เป็น 40% ดันขยะชุมชนเป็น 1,050 เมกะวัตต์ ชีวมวล 9,550 เมกะวัตต์ โซลาร์ 6,500 เมกะวัตต์ ลม 6,000 เมกะวัตต์
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า ขณะนี้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้ร่างแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558-2579 (AEDP 2015) ฉบับปรับปรุงใหม่เสนอกระทรวงพลังงานแล้ว โดยได้ปรับเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจาก 20% ของแผนเดิมเป็น 40% ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่งผลให้การผลิตไฟฟ้ารวมเมื่อสิ้นสุดแผนปี 2559 จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้นเป็น 37,202 เมกะวัตต์ เพิ่มจากแผนเดิม 17,500 เมกะวัตต์
สำหรับแผนดังกล่าวประกอบด้วย 1. ขยะชุมชน 1,050 เมกะวัตต์ เพิ่มจากแผนเดิม 550 เมกะวัตต์ 2. ขยะอุตสาหกรรมคงเดิมที่ 50 เมกะวัตต์ 3. ชีวมวล 9,550 เมกะวัตต์เพิ่มขึ้น 3,900 เมกะวัตต์ 4. ก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย) 1,150 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 550 เมกะวัตต์ 5. ก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน) 3,600 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 2,900 เมกะวัตต์ 6. พลังน้ำขนาดเล็ก 376 เมกะวัตต์คงเดิม 7. พลังงานลม 6,000 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 2,900 เมกะวัตต์ 8. พลังงานแสงอาทิตย์ 12,500 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 6,500 เมกะวัตต์ 9. พลังน้ำขนาดใหญ่คงเดิมที่ 2,900 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ภายใต้แผนดังกล่าวที่กำหนดสัดส่วนการใช้พลังงานดแทนในส่วนของเชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ เอทานอลที่แผนเดิมกำหนดเป้าหมายการใช้ 11.30 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อสิ้นสุดแผนหรือในปี 2579 ปรับเป็น 7 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 4.30 ล้านลิตรต่อวัน ไบโอดีเซลปี 2579 จากเดิม 14 ล้านลิตรต่อวันเป็น7 ล้านลิตรต่อวัน การผลิตไบโอมีเทนอัด หรือ CBG แผนเดิมปี 2579 ใช้อยู่ที่ 4,800 ตันต่อวัน ปรับเป็น 3,300 ตันต่อวันหรือลดลง 1,500 ตันต่อวัน
“การปรับลดเป้าหมายการใช้เอทานอลและไบโอดีเซลรวมถึง CBG นั้นคำนึงถึงทิศทางในระยะสั้นและยาว โดยระยะสั้นราคาน้ำมันยังค่อนข้างถูกทำให้การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพจะมีอุปสรรคในการส่งเสริม ขณะเดียวกัน อนาคตที่รถยนต์จะมุ่งสู่รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV เองก็อาจทำให้สัดส่วนรถยนต์ต่างๆ เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวก็จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอีกครั้ง” แหล่งข่าวกล่าว