พพ.เดินหน้าโครงการส่งเสริมการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานระบบปรับอากาศขนาดใหญ่และระบบทำความเย็นในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ (DSM Chiller) หนุนโรงงานและอาคารควบคุมทั่วประเทศ ลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและประหยัดพลังงานให้ชาติ อัดเงิน 500 ล้านบาทหนุนปรับเปลี่ยนระบบเปิดให้ยื่นถึง 20 ส.ค.นี้
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า ระหว่างวันนี้จนถึง 20 สิงหาคม 2560 พพ.ได้เปิดให้สถานประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานระบบปรับอากาศขนาดใหญ่และระบบทำความเย็นในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ (DSM Chiller) เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานของสถานประกอบการและลดการใช้พลังงานในภาพรวมของประเทศ โดยมีวงเงินสนับสนุนการดำเนินงานรวม 500 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน
“โครงการนี้จะช่วยให้สถานประกอบการลดการใช้ไฟฟ้าในระบบความเย็นได้อย่างถูกต้องและยั่งยืน ได้รับองค์ความรู้ในการอนุรักษ์พลังงาน การบำรุงรักษาระบบทำความเย็นจากที่ปรึกษา โดยจะเปิดรับจนถึง 20 ส.ค.นี้ หรือจนกว่าจะสิ้นสุดการปล่อยสินเชื่อ” นายประพนธ์กล่าว
ทั้งนี้คุณสมบัติของสถานประกอบการที่เข้าร่วมจะต้องเป็น 1. โรงงาน/อาคารควบคุมเอกชนทั่วประเทศ ที่มีระบบทำความเย็นขนาดกำลังผลิตติดตั้งรวมไม่น้อยกว่า 100 ตันความเย็นขึ้นไป หรือที่มีพื้นที่ปรับอากาศรวมไม่น้อยกว่า 500 ตารางเมตรขึ้นไป 2. บริษัทจัดการพลังงาน (ESCO) เป็นผู้ขอรับเงินสนับสนุนแทนโรงงาน/อาคารควบคุม 3. เป็นสถานประกอบการที่มีศักยภาพในการลงทุน ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ในระบบทำความเย็นตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ
สำหรับเงื่อนไขการขอรับเงินสนับสนุน 1.มาตรการที่ขอรับเงินสนับสนุนต้องเกี่ยวข้องกับการพัฒนาประสิทธิภาพในระบบทำความเย็น โดยมาตรการที่มีระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปีได้รับเงินสนับสนุน 1 บาทต่อหน่วยต่อปี มาตรการที่มีระยะเวลาคืนทุนตั้งแต่3 ปีขึ้นไปได้รับเงินสนับสนุน 2 บาทต่อหน่วยค่าไฟฟ้าต่อปี 2. อุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้งต้องมีมาตรฐาน และดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายใน 12 เดือนนับจากวันลงนามสัญญาสนับสนุน
3. สถานประกอบการต้องขอรับการสนับสนุนไม่น้อยกว่า 50,000 หน่วยต่อปี สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อแห่ง 4. ผู้ขอรับเงินสนับสนุนที่เป็นบริษัทจัดการพลังงาน (ESCO) จะต้องมีหนังสือยินยอมจากสถานประกอบการผู้ใช้พลังงานให้เป็นผู้รับการสนับสนุนจากโครงการและวงเงินสนับสนุนรวมทุกสัญญาต้องไม่เกิน 100 ล้านบาท