“สนธิรัตน์” ตรวจห้างพันธุ์ทิพย์ ประกาศไม่มีของปลอมวางขายแล้ว

“สนธิรัตน์” ลงพื้นที่ตรวจศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ยันไม่พบสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาวางจำหน่าย หลัง 4 ร้านต้องสงสัยล่าสุด ถูกห้างยกเลิกสัญญาเช่าไปแล้ว ตั้งเป้าจัดการ 6 ตลาดชื่อดังเรื่องของปลอมไม่ให้มีขายภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ เผยได้เปิดศูนย์ไอเพค รับแจ้งเบาะแส ก่อนลุยจัดการด้วย

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 39 หน่วยงาน ลงพื้นที่ตรวจศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ประตูน้ำ โดยพบว่าแผงลอยหรือร้านค้าที่ลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีจำหน่าย หลังจากที่ก่อนหน้านี้พบร้านต้องสงสัย 4 ร้าน แต่หลังจากที่ได้เข้าไปกดดัน ตรวจสอบ และประสานให้เจ้าของห้างเข้าไปดูแล ซึ่งล่าสุดผู้บริหารศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่าได้ยกเลิกสัญญาเช่าร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าที่น่าสงสัยว่าจะละเมิด 4 รายแล้ว

ทั้งนี้ ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่าเป็นหนึ่งใน 6 ตลาดเป้าหมายที่จะผลักดันไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยอีก 5 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้า MBK ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว ย่านการค้าคลองถม ย่านการค้าบ้านหม้อ และตลาดนัดจตุจักร ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายที่จะปราบปรามไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดภายในสิ้นเดือน ก.ค. 2560 นี้ และยังมีแผนที่จะเร่งปราบปรามในพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ย่านพัฒน์พงษ์ สุขุมวิท 3-12 ห้างไอทีซิตี้ พัทยา ป่าตอง และภูเก็ต เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาได้ผลดีต่อเนื่อง กอ.รมน.ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมทรัพย์สินทางปัญญา และเจ้าของพื้นที่ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการและรับเรื่องร้องเรียนการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือ IPEC (ไอเพค) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กรมทรัพย์สินทางปัญญา และผู้แทนเจ้าของสิทธิ ประจำที่ศูนย์ไอเพค ในพื้นที่ศูนย์การค้ามาบุญครอง ตลาดนัดจตุจักร และตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว เพื่อรับแจ้งเบาะแสการจำหน่ายสินค้าละเมิด ก่อนที่จะดำเนินการปราบปรามต่อไป

“กระทรวงฯ จะเดินหน้าตรวจสอบและลงโทษผู้ที่ลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยดีขึ้น และจะนำผลการปราบปรามเสนอให้สหรัฐฯ ได้รับทราบด้วย เพื่อให้เห็นถึงความจริงจังในการปราบปรามและปลดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ต่อไป” นายสนธิรัตน์กล่าว

สำหรับสถิติการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในภาพรวมของทุกหน่วยงาน (ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมศุลกากร) พบว่า ปี 2559 จับกุมผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญารวม 7,511 คดี จำนวนของกลางที่ยึดได้ 5,546,141 ชิ้น และในช่วง 5 เดือนของปี 2560 (ม.ค.-พ.ค.) จับกุมผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญารวม 3,273 คดี จำนวนของกลางที่ยึดได้ 1,697,233 ชิ้น โดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 จำนวนคดีเพิ่มขึ้น 4.58% ส่วนจำนวนของกลางลดลง 26.56% เนื่องจากผู้ค้านำสินค้าละเมิดมาจำหน่ายลดน้อยลงและไม่เก็บสต๊อกสินค้า