นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันและปราบปรามแหล่งจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะพื้นที่สีแดงสำคัญใน 6 ตลาด เช่น ศูนย์การค้า MBK ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ประตูน้ำ ย่านการค้าคลองถม ย่านการค้าบ้านหม้อ และตลาดนัดจตุจักร ซึ่งจะเดินหน้าขั้นเด็ดขาดว่า พื้นที่ดังกล่าวต้องไม่มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทุกรายการสินค้าโดยเด็ดขาด และต้องให้หมดไปก่อนสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมามีการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสทั้ง 6 ตลาดดังกล่าว พบว่ามีการจำหน่ายสินค้าละเมิดแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งมีการตักเตือนป้องกันและปราบปรามกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลายร้านค้าในตลาดจำนวนไม่น้อยยังฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตาม จึงเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงในการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขีดเส้นว่าจะต้องปราบปรามให้ปลอดจากสินค้าละเมิดให้เห็นผลชัดเจน ก่อนที่จะเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาช่วงปลายปีนี้ เพื่อให้สหรัฐฯ และหลายประเทศเห็นว่าประเทศไทยจริงจังต่อปัญหาดังกล่าว ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ไทยทำลายของกลางคดีที่สิ้นสุดไปมากกว่า 3 ล้านชิ้นแล้ว
ทั้งนี้ ตามแนวทางการป้องกันและปราบปรามที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการอยู่ จะใช้จากเบาไปหาหนัก โดยเริ่มจากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวและแนะนำ ตักเตือนผู้ค้า แจกเอกสาร ทำป้าย ผ่านเสียงตามสายถึงโทษการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและจัดอบรมให้ความรู้กับผู้ค้า การยกเลิกสัญญาเช่า การจัดตั้งห้องปฏิบัติการประจำพื้นที่ต่าง ๆ และดึงเจ้าของสิทธิ์ทำการตรวจสอบจุดที่ตั้งของร้านค้าแผงลอยที่จำหน่ายสินค้า โดยแนวทางทั้งหมดจะร่วมกับหน่วยงานดังกล่าวอย่างเต็มที่ จึงเชื่อว่าความร่วมมือนี้จะทำให้พื้นที่ที่จำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายหมดไป พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยงานจัดการขั้นเด็ดขาด หากพบร้านค้าใดกระทำผิดส่งดำเนินคดีทั้งกฎหมายอาญาและกฎหมายแพ่งกันต่อไป และเท่าที่ได้รับรายงานหลังจากปฎิบัติการร่วมมือทุกฝ่ายเวลานี้พื้นที่มาบุญครอง ห้างพันธุ์ทิพย์ ร้านที่จำหน่ายของเถื่อนหมดไปแล้ว ขณะที่พื้นที่เหลือ ได้แก่ ตลาดจัตุจักร และตลาดโรงเกลือ ยังมีอยู่บ้าง ก็จะเร่งแก้ไขต่อไปและลงพื้นที่ตรวจสอบสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมามีการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสทั้ง 6 ตลาดดังกล่าว พบว่ามีการจำหน่ายสินค้าละเมิดแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งมีการตักเตือนป้องกันและปราบปรามกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่หลายร้านค้าในตลาดจำนวนไม่น้อยยังฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตาม จึงเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงในการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขีดเส้นว่าจะต้องปราบปรามให้ปลอดจากสินค้าละเมิดให้เห็นผลชัดเจน ก่อนที่จะเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาช่วงปลายปีนี้ เพื่อให้สหรัฐฯ และหลายประเทศเห็นว่าประเทศไทยจริงจังต่อปัญหาดังกล่าว ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ไทยทำลายของกลางคดีที่สิ้นสุดไปมากกว่า 3 ล้านชิ้นแล้ว
ทั้งนี้ ตามแนวทางการป้องกันและปราบปรามที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการอยู่ จะใช้จากเบาไปหาหนัก โดยเริ่มจากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวและแนะนำ ตักเตือนผู้ค้า แจกเอกสาร ทำป้าย ผ่านเสียงตามสายถึงโทษการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและจัดอบรมให้ความรู้กับผู้ค้า การยกเลิกสัญญาเช่า การจัดตั้งห้องปฏิบัติการประจำพื้นที่ต่าง ๆ และดึงเจ้าของสิทธิ์ทำการตรวจสอบจุดที่ตั้งของร้านค้าแผงลอยที่จำหน่ายสินค้า โดยแนวทางทั้งหมดจะร่วมกับหน่วยงานดังกล่าวอย่างเต็มที่ จึงเชื่อว่าความร่วมมือนี้จะทำให้พื้นที่ที่จำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายหมดไป พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยงานจัดการขั้นเด็ดขาด หากพบร้านค้าใดกระทำผิดส่งดำเนินคดีทั้งกฎหมายอาญาและกฎหมายแพ่งกันต่อไป และเท่าที่ได้รับรายงานหลังจากปฎิบัติการร่วมมือทุกฝ่ายเวลานี้พื้นที่มาบุญครอง ห้างพันธุ์ทิพย์ ร้านที่จำหน่ายของเถื่อนหมดไปแล้ว ขณะที่พื้นที่เหลือ ได้แก่ ตลาดจัตุจักร และตลาดโรงเกลือ ยังมีอยู่บ้าง ก็จะเร่งแก้ไขต่อไปและลงพื้นที่ตรวจสอบสัปดาห์หน้า