บอร์ดต่างด้าวอนุญาตต่างชาติประกอบธุรกิจในไทยเดือน มิ.ย. 17 ราย นำเงินเข้ามา 331 ล้านบาท จ้างแรงงาน 439 คน ระบุยังได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ด้วย ส่วนยอดอนุญาต 6 เดือนมี 136 ราย เงินลงทุน 3,743 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 3,078 คน
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาคณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าว 17 รายประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 331 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 439 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ และองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่
1. ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม จำนวน 6 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 199 ล้านบาท ได้แก่ บริการให้กู้ยืมเงิน บริการบริหารจัดการด้านการดำเนินพิธีการศุลกากรและติดต่อประสานงานกับผู้ให้บริการด้านการขนส่งสินค้า บริการให้คำปรึกษาแนะนำและบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลและด้านความปลอดภัย บริการทดสอบความน่าเชื่อถือของชิ้นส่วนยานพาหนะที่ทำจากยาง บริการทางบัญชี โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเนเธอร์แลนด์
2. ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า จำนวน 7 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 120 ล้านบาท ได้แก่ บริการให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์ทุกประเภทและรถยนต์ใช้แล้ว บริการตรวจรับรองคุณภาพรถแทรกเตอร์ รถเกี่ยวข้าว บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาระบบจำลองสภาพอากาศและสภาวะแวดล้อมเพื่อใช้ในการทดสอบคุณภาพสินค้าบริการซ่อมแซม บำรุงรักษาและปรับปรุงเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บริการเป็นผู้ให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บริการรับจ้างผลิตภาพยนตร์แอนิเมชัน โดยการสร้างภาพเคลื่อนไหวเสมือนจริงด้วยเทคนิคคอมพิวเตอร์ บริการรับจ้างผลิตขดลวดทำความร้อน โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และไต้หวัน
3. ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาภาครัฐ จำนวน 1 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 3 ล้านบาท ได้แก่ บริการเป็นที่ปรึกษาตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยของระบบ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้แก่ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศฝรั่งเศส
4. ธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง จำนวน 3 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 9 ล้านบาท ได้แก่ การค้าปลีกแม่พิมพ์ที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนโลหะในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การค้าปลีกอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมการผลิต การค้าส่งสารเคมีที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเคมีภัณฑ์ทางการเกษตรประเภทยากำจัดวัชพืช โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี และจีน
“การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้มีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น วิทยาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับกระบวนการทำงานการสร้างภาพยนตร์เคลื่อนไหวเสมือนจริง การถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบ ควบคุมและดูแลรักษาเครื่องจักรที่ใช้ในการทดสอบความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ (Liability Test) ประเภทชิ้นส่วนยานพาหนะที่ทำจากยาง วิทยาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับการออกแบบรูปแบบขดลวดทำความร้อน (Heater) และวิทยาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับการวิเคราะห์ ออกแบบและตรวจสอบระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งวิทยาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับการซ่อมแซมและบำรุงรักษาระบบที่ใช้จำลองสภาพอากาศและสภาวะแวดล้อมสำหรับทดสอบคุณภาพสินค้าประเภทรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (Environmental testing system) เป็นต้น” น.ส.บรรจงจิตต์กล่าว
ทั้งนี้ การอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจในช่วง 6 เดือนของปี 2560 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวน 136 ราย ลดลง 24% มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,743 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 179 ราย และมีเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,711 ล้านบาท ส่วนยอดรวมทั้งปี 2559 (ม.ค.-ธ.ค.) คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในไทยจำนวนทั้งสิ้น 352 ราย และมีเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,443 ล้านบาท