“อนันตพร” ย้ำการเก็บอัตราค่าสำรองไฟฟ้า หรือ Backup Rate เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคลที่มีสิทธิ์แสดงความห่วงใยได้ แต่การตัดสินใจสุดท้ายอยู่ที่อำนาจกระทรวงพลังงานและ กกพ.จะตัดสินใจ จ่อเปิดรับซื้อโซลาร์รูฟท็อปเสรีแต่ราคาต้องไม่แพงกว่าขายส่ง พร้อมศึกษาเปิดประมูล
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกระแสโลกโซเชียลเกี่ยวกับกรณีแนวคิดการเก็บค่าสำรองไฟฟ้า หรือ Backup Rate ว่า เป็นเรื่องที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แสดงความคิดเห็นในงานสัมมนาสื่อมวลชน และเป็นเวทีเสรีควรดูที่เจตนารมณ์เพราะกระแสที่ตีกลับมาแรงเพราะฟังแค่นิดเดียวแล้วก็เข้าใจไปเลย โดยแนวทางการจัดเก็บนั้นสุดท้ายผู้ที่จะตัดสินใจดำเนินนโยบายนี้หรือไม่ อย่างไรอยู่ที่กระทรวงพลังงานและคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)
“ทุกอย่างพูดไปเถอะ เราอย่าไปอะไรมาก เพราะอำนาจไม่ได้อยู่ที่ กฟผ. มันอยู่ที่กระทรวง เพราะฉะนั้นเขามีเหตุผลอะไรก็ได้ การสัมมนาให้เวลาเขาสั้นๆ ถ้าให้เขาพูดยาวๆ จะรู้คำตอบมากขึ้น ผมฟังมาแล้วก็พอจะเข้าใจ กฟผ.เองมีความห่วงใยในเรื่องของต้นทุนค่าไฟเพราะค่าไฟมาจากการลงทุนแล้วหารด้วยจำนวนผู้ใช้ ถ้าผู้ใช้น้อยลงต้นทุนก็สูงขึ้น แต่มันยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายแค่คนหนึ่งคนไปพูดในสัมมนาคิดอย่างไรเขาก็อยากพูด ซึ่งเป็นผมคิดอย่างไรก็อยากพูดแต่ไม่ใช่มาบอกว่าต้องปฏิบัติตาม” รมว.พลังงานกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาที่ผ่านมา กฟผ.ดำเนินงานโดยคำนึงถึงประชาชน ทั้งเรื่องค่าไฟฟ้าที่เป็นธรรม ความมั่นคงด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมจึงอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน แต่อนาคต กฟผ.ก็จะต้องปรับตัวที่ขณะนี้คนไทยเริ่มมีการผลิตไฟฟ้าใช้เองมากขึ้น โดยการผลิตไฟฟ้าใช้เองในขณะนี้ประชาชนมีสิทธิ์ผลิตไฟใช้เองได้อยู่แล้ว ถ้าจะมาใช้ไฟในระบบหรือขายเข้าระบบไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ขอให้รอเพราะนโยบายรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัยหรือโซลาร์รูฟท็อปเสรีที่จะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ในการรับซื้อ ซึ่งการรับซื้อราคาจะต้องไม่แพงกว่าราคาขายส่ง ขณะเดียวกันกำลังมีแนวคิดที่อาจจะเปิดประมูลแข่งขันหรือไม่ด้วย
“ทุกคนมีสิทธิ์จะผลิตไฟฟ้าใช้เองอยู่แล้วถ้าไม่ขาย หรือมาใช้ในระบบ พอเหลือแล้วมาขายแล้วมาซื้อ จู่ๆ จะขายเท่าใดก็ได้โดยไม่สนใจ พอไฟฟ้าล้นระบบการลงทุนของรัฐเพื่อรองรับความต้องการก็จะไม่คุ้มค่า การลงทุนทุกบาททุกสตางค์มันผ่านไปที่ค่าไฟอย่าคิดง่ายๆ” รมว.พลังงานกล่าว
