xs
xsm
sm
md
lg

ตลาด LPG รถยนต์เดือด ทั้งค้าปลีก-ค้าส่งดัมป์ราคาชิงตลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้ประกอบการปั๊มแอลพีจีเปิดศึกชิงลูกค้า เริ่มดัมป์ราคาขายปลีกลงแข่งขันหลังลูกค้าหด เหตุผู้ใช้รถยนต์เมินใช้แอลพีจีจากราคาน้ำมันขาลง ขณะที่ราคาขายปลีกแอลพีจีครัวเรือนผู้เล่นน้อยไม่เอื้อให้แข่งขัน เหตุรัฐห้ามบรรจุข้ามแบรนด์ทำให้ต้องลงทุนถังที่มีมูลค่าสูง

นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการสถานีบริการก๊าซแอลพีจีเริ่มมีการลดราคาขายปลีกแอลพีจีหน้าปั๊มลงมาเพื่อแข่งขันดึงลูกค้ามากขึ้น เนื่องจากผู้ใช้รถยนต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์การใช้แอลพีจีลดลงและบางส่วนที่ติดตั้งก็หันไปใช้น้ำมันแทนเพราะมีราคาที่ถูกลงเมื่อเทียบกับอดีต ประกอบกับส่วนหนึ่งมีการลดราคาขายจากผู้ค้าแอลพีจี ม.7 ด้วย

“ขณะนี้ปั๊มแอลพีจีมีการดัมป์ราคาขายปลีกลงมาอยู่ที่ 11.98-12 บาทต่อลิตรจากราคาขายปลีกจริงอยู่ที่ 12.50 บาทต่อลิตร เนื่องจากมีการแข่งขันที่สูงขึ้นจากการที่ยอดการใช้แอลพีจีขนส่งลดลงต่อเนื่องเพราะราคาน้ำมันถูกทำให้คนหันไปใช้น้ำมันแทน และอีกส่วนผู้ค้า ม.7 มีโปรโมชันลดราคาให้เพิ่มขึ้น เช่น หากปั๊มใดทำยอดขายในแต่ละเดือนเกินที่ตั้งไว้ก็จะมีส่วนลดให้ ซึ่งก่อนหน้านี้ปั๊มแอลพีจีส่วนใหญ่จะดึงลูกค้าด้วยการจัดแคมเปญเรื่องของการแถมมากกว่า เช่น แจกน้ำดื่ม” นายชิษณุพงศ์กล่าว

ทั้งนี้ แอลพีจีในภาคขนส่งถือว่ามีการแข่งขันกันพอสมควรในระดับค้าปลีก แต่ในส่วนของแอลพีจีถังครัวเรือนนั้นแม้ว่าล่าสุดจะมี บ.มิตซูบิชิได้รับอนุมัติจากกรมธุรกิจพลังงานให้เป็นผู้ค้า ม.7 เพิ่มขึ้นในการนำเข้าแอลพีจีมาจำหน่ายค้าส่งในไทย และก่อนหน้ามีบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) นำเข้ามาแล้วส่วนหนึ่งและทำให้มีการแข่งขันด้านราคาขายส่งลงมา แต่ยอมรับว่าในส่วนของราคาขายปลีกแอลพีจีครัวเรือนยังไม่เกิดการแข่งขันมากนักเนื่องจากระเบียบของรัฐห้ามบรรจุข้ามแบรนด์ ซึ่งการจะเข้ามาทำแบรนด์ใหม่ต้องมีถังเป็นของตนเองซึ่งลงทุนค่อนข้างสูงมาก

“หากรัฐสามารถแก้ไขระเบียบดังกล่าวที่เปิดทางให้กับผู้ค้า ม.7 และโรงบรรจุก๊าซสามารถบรรจุถังได้ทุกยี่ห้อ โดยมีการกำหนดให้มีโรงงานซ่อมถังกลางก็น่าจะก่อให้เกิดการแข่งขันในระดับค้าปลีกได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็คงจะต้องอยู่ที่รัฐจะมีนโยบายอย่างไร” นายชิษณุพงศ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น