ผลพวงน้ำมันราคาถูกส่งผลให้ปั๊ม NGV เริ่มลดลง คาดอนาคตจะเห็นชัดเจนขึ้น ล่าสุดเดือน พ.ค.เหลือ 461 แห่งแล้วจากที่เคยสูงสุดกว่า 500 แห่ง ผู้ประกอบการรับรถบรรทุกเลิกใช้ NGV แล้ว 1.2 หมื่นคันหรือ 30% จากที่ติดตั้ง 4 หมื่นราย
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า แนวโน้มปั๊มก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ NGV จะมีการปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นเดียวกับปั๊มแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) เพราะราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับต่ำทำให้ผู้ใช้รถยนต์หันไปเติมน้ำมันแทน ซึ่งอดีตปั๊ม NGV นั้นเคยมีสูงสุดกว่า 500 แห่ง แต่ล่าสุดตัวเลขเดือน พ.ค. 60 อยู่ที่เพียง 461 แห่ง และเชื่อว่าแนวโน้มตัวเลขนี้จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจนขึ้น
“ล่าสุดก็มีผู้มาแจ้งขอปิดปั๊ม NGV อีก 4-5 แห่ง ทิศทางนี้คงจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะรถยนต์ใหม่แทบไม่ติดตั้งอุปกรณ์การใช้ NGV เลยเพราะน้ำมันถูก และ NGV ที่ผ่านมาลูกค้าหลักส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุก ซึ่งก็พบว่ารถบรรทุกใหม่ไม่มีการติดตั้งเช่นกัน ส่วนรถบรรทุกเก่าๆ ที่ติดตั้งไปก่อนหน้านี้บางส่วนใช้มานานก็ถอดออก” นายวิฑูรย์กล่าว
นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รถบรรทุกซึ่งใช้งานจริงที่ติดตั้ง NGV ประมาณ 4 หมื่นคันขณะนี้คาดว่าจะมีการเลิกใช้ NGV แล้วไม่น้อยกว่า 30% หรือประมาณ 1.2 หมื่นคัน ซึ่งคำนวณจากปริมาณการใช้ NGV ของ บมจ.ปตท.ที่ลดลงขณะนี้เฉลี่ยจากวันละ 9,000 กว่าตันต่อวันเหลือ 6,500 ตันต่อวัน ซึ่งปัจจัยหลักมาจากระดับราคา NGV ที่ก่อนหน้าคงไว้ที่ระดับ 10.50 บาทต่อ กก. ต่อมากระทรวงพลังงานปรับโครงสร้างจึงทำให้มีการขึ้นต่อเนื่องมากกว่า 3 บาทต่อ กก. ทำให้ผู้ใช้รายใหม่เริ่มไม่ติดตั้ง และต่อมาราคาน้ำมันถูกลงจึงเป็นตัวเร่งให้การใช้ NGV ลดลงมากขึ้นไปอีก
“ราคา NGV วันที่ 27 มิ.ย. 60 อยู่ที่ 13.03 บาทต่อ กก. แต่ก็จะมีการบวกค่าขนส่งแต่ละพื้นที่ทำให้ต่างกัน ค่าขนส่งมีการบวกไปค่อนข้างแพงมาก ภาพรวมก็ทำให้รถบรรทุกที่ถือว่าเป็นผู้ใช้รายใหญ่เมื่ออุปกรณ์เสียก็ยกเลิกแล้วหันไปใช้ดีเซลแทนเพราะราคาต่ำ” นายยูกล่าว