กรมธุรกิจพลังงาน เผย การนำเข้าน้ำมันดิบเดือนมกราคม 2560 คิดเป็นปริมาณ 975 ล้านลิตร มูลค่ากว่า 6.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่าเมื่อเทียบกับ ม.ค.59 โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 234 ล้านลิตรเพิ่มขึ้น 4.9% มูลค่าเพิ่มขึ้น 2.55 หมื่น ลบ. หรือ 67.9%
รายงานข่าวจากกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) แจ้งว่า ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเดือน ม.ค.60 อยู่ที่ 975 ล้านลิตร เฉลี่ยวันละ 160.5 ล้านลิตร หรือ 1,009,430 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 63,145 ล้านบาท โดยพบว่า เดือน ม.ค.60 ทั้งปริมาณและมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณนำเข้าเพิ่มขึ้น 234 ล้านลิตร คิดเป็น 4.9% มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 25,538 ล้านบาท คิดเป็น 67.9% ทั้งนี้ เนื่องจากความต้องการใช้ภาพรวมเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโต ขณะที่มูลค่าที่เพิ่มสะท้อนตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปีนี้ราคามีทิศทางสูงกว่าปีที่ผ่านมา
ส่วนสถานการณ์การใช้น้ำมัน เดือน ม.ค. ปี 2560 พบว่า กลุ่มเบนซิน อยู่ที่ 28.34 ล้านลิตรต่อวัน เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีการใช้อยู่ที่ 27.48 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.1% โดยกลุ่มเบนซิน พบว่า น้ำมันชนิดอื่นๆ ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนยกเว้นแก๊สโซฮอล์ 91 ซึ่งการใช้อยู่ที่ 10.57 ล้านลิตรต่อวันลดลง 3.2% เนื่องจากราคาแก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาสูงกว่าเพียงลิตรละ 27 สตางค์เท่านั้นส่วนหนึ่งจึงหันมาเติมแก๊สโซฮอล์ 95 แทน
ขณะที่การใช้ดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่ 61.18 ล้านลิตรต่อวัน เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มีการใช้อยู่ที่ 62.37 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 1.9% เนื่องจากช่วงเดือน ธ.ค. ของทุกปีที่เป็นช่วงที่มีการใช้พลังงานสูงสุดเนื่องจากเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวซึ่งตัวเลขดังกล่าว จึงถือว่าเป็นการโตที่สะท้อนให้เห็นว่าการใช้น้ำมันเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลมากขึ้น จากปีที่ผ่านมาการใช้เบนซินบางเดือนสูงถึง 10% เนื่องจากราคาน้ำมันถูกลง แต่ปีนี้ราคาน้ำมันเริ่มปรับสูงขึ้น ทำให้ประชาชนชะลอการใช้น้ำมันลง
สำหรับการใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เดือน ม.ค. ปี 2560 เฉลี่ยอยู่ที่ 17.16 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 16.75 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เพิ่มขึ้น 2.4% เป็นผลมาจากแอลพีจีในภาคปิโตรเคมี มีการใช้อยู่ที่ 5.83 ล้านกิโลกรัมต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากราคาแอลพีจีถูกว่าราคาแนฟทา ทำให้โรงงานหันมาใช้แอลพีจีเป็นวัตถุดิบแทนแนฟทาเพิ่มขึ้น รวมถึงการใช้แอลพีจีภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ 1.64 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.4% และการใช้แอลพีจีภาคครัวเรือน อยู่ที่ 5.88 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เพิ่มขึ้น 2.3% แต่การใช้แอลพีจีภาคขนส่ง อยู่ที่ 3.79 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลง 8.5% เนื่องจากราคาน้ำมันถูกลงทำให้ผู้ที่ใช้รถยนต์หันไปใช้น้ำมันมากขึ้น ประกอบกับนโยบายการปรับโครงสร้างราคาแอลพีจี